MGR Online - ตำรวจตามรวบหนุ่มไทยรับจ้างนายทุนพม่า ส่งยาเสพติด พร้อมยึดยาบ้า 4 แสนกว่าเม็ด เคตามีน อีก 580 ขวด สารภาพจะนำยามาส่งย่านเลียบด่วนรามอินทรา ตามที่นัดหมาย ได้ค่าจ้างครั้งละ 100,000 - 180,000 บาท อ้างทำครั้งแรก
วันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 16.30 น. ที่ กก.สส.บก.น.3 พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผบก.น.3 พ.ต.อ.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ ผกก.สส.บก.น.3 พ.จ.ท.ปัญญา ดำเล็ก รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุทธิพร สุกก่ำ สว.สส. และตำรวจ กก.สส.บก.น.3 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายพรเลิศ แซ่เล้า หรือ อั้ม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 190/169 ซอยพุทธบูชา 36 แยก 8 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม.
พร้อมของกลางยาบ้า 466,000 เม็ด ยาเคตามีนชนิดน้ำ 580 ขวด รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบริโอ้ สีเทา ทะเบียน ฑท 6376 กรุงเทพมหานคร และ รถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์สีขาว ทะเบียน 6 กก 2597 กรุงเทพมหานคร โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 99/218 หมู่บ้านกลางเมืองกัลปพฤกษ์ ซอยศาลธนบุรี แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจ กก.สส.บก.น.3 ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายพรเลิศ มีพฤติกรรมลักลอบส่งยาเสพติดบริเวณถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา โดยใช้รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นบริโอ้ สีเทา เป็นประจำ จึงได้ประชุมวางแผนและจัดกำลังไปซุ่มดูบริเวณดังกล่าว จนเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 25 ส.ค. พบรถเก๋งตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับขับมาจอดอยู่ริมถนนเลียบด่วนรามอินทรา และได้วางถุงดำทิ้งไว้ก่อนขับรถออกไป เจ้าหน้าที่จึงขับรถติดตาม ต่อมาเวลา 02.50 น. วันที่ 26 ส.ค. นายพรเลิศ ได้ขับรถเข้าไปจอดหน้าบ้านพักภายในหมู่บ้านกลางเมืองกัลปพฤษ์ก่อนเดินออกมาพร้อมถือถุงพลาสติกสีดำ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบยาบ้า 50 มัด อยู่ในถุงพลาสติกดังกล่าว จากการตรวจค้นในบ้านพักพบยาบ้าและยาเคจำนวนมาก
จากการสอบสวนนายพรเลิศ ให้การรับสารภาพว่าทำมานานแล้ว โดยไม่ได้ประกอบอาชีพใด ทำหน้าที่ส่งยาเสพติดอย่างเดียวให้ลูกค้าย่านรามอินทราและฝั่งธนบุรี โดยรับคำสั่งจากนายเฮีย สัญชาติพม่า ก่อนหน้านี้ เคยได้ค่าจ้างในการส่งยาเสพติด 180,000 บาท ส่วนครั้งนี้ได้รับการว่าจ้างอีก 1 แสนบาท ซึ่งเงินที่ได้ไว้ใช้จ่ายและซื้อยาเสพติดเสพ ก่อนถูกจับกุมในที่สุด จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับในคดีเสพยาเสพติดในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน
ตำรวจแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่ง บช.ปส. ดำเนินคดีต่อไป