xs
xsm
sm
md
lg

ลงพื้นที่สอบทุจริตออกโฉนดที่ดินกว่า 200 ไร่ ในพื้นที่ภูเรือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ศอตช.-กอ.รมน.จว.เลย และ ป.ป.ท.ลุยสอบทุจริตออกโฉนดที่ดินกว่า 200 ไร่ ในพื้นที่ภูเรือ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการออกโฉนดขยายพื้นที่มากกว่านี้ โดยก่อนหน้านี้กรมที่ดินเคยมีคำสั่งให้เพิกถอน น.ส.3 ก.มาแล้ว 6 แปลง

สืบเนื่องจากศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ได้รับเรื่องร้องเรียนการออกโฉนดที่ดิน โดยมิชอบในเขตพื้นที่ป่าภูเขาหนองปาด (ภูพ้อย) ต.ปลาบ่า อ.ภูเรือ จ.เลย จึงได้จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เมื่อปี 2533 บริเวณดังกล่าวได้เคยมีการออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.มาแล้ว จำนวน 51 แปลง เป็นเนื้อที่ 2,296 ไร่ ต่อมาเมื่อปี 2547 กรมที่ดินได้มีคำสั่งที่ 2529/2547 เรื่องการเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ลงวันที่ 14 กันยายน 2547 ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) ดังกล่าว จำนวน 49 แปลง เนื่องจากไม่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินจริง ประกอบกับที่ดินที่ออก น.ส.3 ก.เป็นที่ภูเขาหนองปาด (ภูพ้อย) ซึ่งต้องห้ามมิให้ออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน แต่ต่อมา ในวันที่ 27 มิถุนายน 2560 กลับมีการออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยวิธีการเดินสำรวจ และได้ออกโฉนดที่ดินทับซ้อนกับพื้นที่เดียวกันกับที่กรมที่ดินเคยมีคำสั่งให้เพิกถอน น.ส.3 ก.มาแล้ว จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ 280-0-26 ไร่ โดยเป็นการออกโฉนดที่ดินแบบเดินสำรวจ ตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน หลังจากนั้น เพียง 3 วัน ก็ได้โอนขายที่ดินทั้ง 6 แปลงดังกล่าวให้แก่บุคคลรายเดียว

วันนี้ (21 ส.ค.) นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการ ศอตช. ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลย (กอ.รมน.จว.เลย) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลย 7 (ภูเรือ) และอำเภอภูเรือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท.ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเรื่องร้องเรียนนี้ โดยหากปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินทั้ง 6 แปลง อันเป็นการกระทำทุจริตในภาครัฐแล้วจะนำเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ท.เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551

นายประยงค์กล่าวว่า ตนในฐานะเลขาฯ ศอตช.เห็นควรว่าต้องรีบเร่งดำเนินการตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้มีการออกโฉนดขยายพื้นที่มากกว่านี้ เพราะภูเป็นเขตแหล่งป่าใหญ่ของชาติและหวังว่าจะให้พื้นที่นี้เป็นต้นแบบการแก้ปัญหาของชาติ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าแปลงที่ทับพื้นที่ น.ส.3 ก.ที่ถูกเพิกถอนก่อนหน้าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบหรือไม่ ต้องมีกระบวนการตรวจสอบ หากพบว่ามีเจ้าหน้าของรัฐเข้าไปเกี่ยวในการออกโฉนดที่ดินก็จะดำเนินการ โดยการตรวจสอบอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี

ด้าน พ.อ.สมศักดิ์ แจ่มพันธ์ รอง กอ.ร.มน.จ.เลย กล่าวว่า จากการที่ตนได้ส่งชุดสำรวจลงไปตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าวพบว่ามีการก่อสร้างบ้าน 4 หลังในพื้นที่ และมีการตัดไม้ในบริเวณป่าดังกล่าวมากองไว้เต็มพื้นที่แต่กลับไม่มีเจ้าของบ้าน นอกจากคนดูแลสวนเท่านั้น คนดูแลสวนได้ยืนยันว่าจะไม่มีรื้อถอนบ้านออกจากพื้นที่และอ้างว่าที่ดินดังกล่าวมีหลักฐาน น.ส.ล.(หนังสือสำคัญที่หลวง) ซึ่งถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนที่มีการร้องเรียนว่ามีผู้ครอบครองที่ดินในพื้นที่ 3,000 ไร่นั้น ตนยังไม่ทราบรายชื่อผู้ครอบครองและจำนวนที่ดินที่แท้จริง ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอีกครั้งก่อน

สำหรับการลงพื้นที่ของชุดปฏิบัติการ ศอตช.ในครั้งนี้ นอกจากเป็นการตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดแล้ว ยังเป็นการขยายผลเพื่อป้องกันมิให้มีการนำรูปแบบการออกเอกสารสิทธิในลักษณะเดียวกันนี้ไปใช้ในการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ที่เคยถูกเพิกถอน น.ส.3 ก.ในพื้นที่อื่นอีกต่อไปด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น