MGR Online - “ศรีวราห์” รุดสอบปากคำแก๊งอดีตทหารนอกราชการ อุ้มเสี่ยเต็นท์รถมือสอง ก่อนบังคับข่มขู่แล้วปล้นทรัพย์มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ปมแค้นอ้างได้เงินค่าขายรถเบนซ์ไม่ครบ ตร. คุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 19 จุด จ่ายุทธ 1 ใน 4 ผู้ต้องหาร้องขอความช่วยเหลือ “เสี่ยโป้”
จากกรณี นายธนบดี จิตตา อายุ 21 ปี ทำธุรกิจซื้อขายรถมือสอง แจ้งความ สน.ห้วยขวาง ถูก นายกันตพิชญ์ งามเอก อายุ 21 ปี กับพวกก่อเหตุลักพาตัวขึ้นรถบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านถนนรัชดาภิเษก โดยมีการทำร้ายร่างกาย แล้วบังคับข่มขู่ปล้นทรัพย์สินมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนวานนี้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (4 ส.ค.) เวลา 12.30 น. ที่ สน.ห้วยขวาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถจับกุมได้เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ประกอบด้วย นายอานนท์ สาระสันต์ อายุ 38 ปี อดีตพลทหาร นายกฤษณะ พงษ์สว่าง อายุ 30 ปี อดีตทหารยศร้อยโท นายสุชาติ นิลศิริโก อายุ 40 ปี และ นายศุภกร ไชยมี อายุ 35 ปี อดีตจ่าทหาร ในความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ร่วมหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันลักพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร
จากการสอบปากคำ นายกันตพิชญ์ เบื้องต้นให้การสารภาพโดยอ้างว่า นายธนบดี ไม่ยอมจ่ายค่ารถเบนซ์ที่ตนเองขายให้ จึงมีการแจ้งความดำเนินคดี นายธนบดีในข้อหายักยอกทรัพย์ จากนั้นจึงวางแผนกับพวกลงมือก่อเหตุเพื่อล้างแค้นนายธนพิชญ์
โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ ใช้เวลาสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหานานกว่า 20 นาที เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยินดีนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำให้การ ภายหลังสอบปากคำเสร็จสิ้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปให้ผู้เสียหายทำการชี้ตัว ก่อนจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากนายธนบดี ผู้เสียหายแล้วว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดจนครบ อีกทั้งยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจค้นหาทรัพย์สินที่ผู้เสียหายถูกประทุษร้าย และอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ส่วนทรัพย์สินของผู้เสียหาย หากพบว่าตกทอดไปอยู่กับใครก็ให้ดำเนินการในข้อหารับของโจร และขยายผลต่อไปอีก อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นของผู้ต้องหายังไม่พบว่า มีประวัติเคยก่อเหตุในลักษณะนี้
ด้าน นายธนบดี เปิดเผยว่า ทรัพย์สินที่สูญหายไป ประกอบด้วย นาฬิกา จำนวน 3 เรือน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง กระเป๋าหลุยส์ 1 ใบ กระเป๋าใบใหญ่ 1 ใบ กุญแจรถเบนซ์ และกระเป๋าสตางค์ พร้อมเงินสดจำนวน 13,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 3 ล้านบาท โดยในวันเกิดเหตุ นายกัณตพิชญ์ ได้โทรศัพท์นัดตนให้ออกมาพบ เนื่องจากอยู่ในช่วงพิจารณาคดีที่นายกัณตพิชญ์ ได้แจ้งความเรื่องการซื้อขายรถยนต์ ทั้งนี้ ตนเองไม่ทราบสาเหตุที่นายกัณตพิชญ์ ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เพราะไม่เคยมีเรื่องอะไรโกรธเคืองกัน
ส่วนเรื่องรถยนต์ที่รับซื้อรถจากนายกัณตพิชญ์ ในราคาถูก ก็ได้มีการชี้แจงกับนายกัณตพิชญ์ ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีการรับซื้อรถยนต์มาในราคา 3 แสน 3 หมื่นบาท ก่อนจะขายต่อไปในราคา 4 แสน 7 หมื่นบาท ต่อมาได้มีการเปลี่ยนมืออีกครั้งราคาอยู่ที่ 5 แสนกว่าบาท ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพียงปัญหาเดียวเพราะนายกัณตพิชญ์ ต้องการเงินส่วนที่ยังไม่ได้ตามจำนวนเงินที่เขาคิดว่าจะขายได้
ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปชี้จุดที่มีการพาตัวผู้เสียหายไปรีดทรัพย์ โดยจุดแรกได้ชี้จุดบริเวณทางเข้าห้างเดอะสตีท รัชดา จากนั้นได้ชี้จุดที่นายกัณตพิชญ์ ได้พบกับผู้เสียหายบริเวณทางเข้าร้านกาแฟ สตาร์บัคส์ ชั้น 2 ของห้างดังกล่าว และได้มีการนั่งพูดคุยกัน ต่อมาจึงได้ชี้จุดที่ผู้เสียหาย ได้เดินไปซื้อกาแฟภายในร้าน ก่อนจะถูกกลุ่มผู้ต้องหาล็อกตัว แล้วนำตัวไปขึ้นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ โดยใช้เวลา ประมาณ 20 นาที
ขณะที่กำลังชี้ในจุดแรกกลุ่มผู้ต้องหาได้ตะโกนขอความเป็นธรรม ระบุว่า ฝ่ายตนเองเป็นผู้ถูกโกง โดยนายศุภกร หรือ จ่ายุทธ ไชยมี หนึ่งในผู้ต้องหา ได้บอกกับสื่อมวลชน ว่า คู่กรณีมีคดีความฟ้องร้องมากมายเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ นอกจากนี้ ยังได้บอกให้ “เสี่ยโป้” เข้ามาช่วยเหลือ
ทั้งนี้ การทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้ จะทำด้วยกันทั้งหมด 19 จุด โดยมีจุดสำคัญ 3 จุดใหญ่ จุดแรกบริเวณร้านกาแฟสตาร์บัคส์ ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเดอะสตีท ถนนรัชดา ซึ่งเป็นจุดที่นายธนบดี ถูกกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดใส่กุญแจมือ แล้วพาลงมาขึ้นรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เพื่อรูดทรัพย์ จุดที่ 2 คอนโด ภายในซอยพหลโยธิน 66 แขวงและเขตสายไหม กทม. เป็นห้องพักนายธนบดี และเป็นจุดที่กลุ่มคนร้ายบังคับให้มาเอาทรัพย์สิน และจุดที่สามบริเวณหน้าบ้านพักพี่ชายนายธนบดี ภายใน ซ.เพชรเกษม 54 ซึ่งเป็นจุดที่นายธนบดี หลอกกลุ่มคนร้ายว่า ยังมีทรัพย์สินอีกส่วนเก็บไว้ และเป็นจุดที่ นายธนบดี อาศัยจังหวะหลบหนีลงมาจากรถ เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน จนสามารถเอาตัวรอดมาได้