ทลายแก๊งขาใหญ่ “อุ้มเสี่ยเต็นท์รถ” ย่านห้วยขวาง อ้างตัวเป็นกลุ่มคนมีสีรับงานทวงหนี้ (มีคลิป)

MGR Online - ตร.ห้วยขวาง คุมตัวผู้ต้องหาอุ้มเสี่ยเต็นท์รถ ซึ่งรู้จักกันในกลุ่มไลน์รถยนต์หรู มาให้ผู้เสียหายชี้ตัว โดยมีพฤติการณ์อ้างตัวเป็นกลุ่มคนมีสีรับงานทวงหนี้ เรียกขานนาม “ขาใหญ่” ออกหมายจับเพิ่มอีก 4 ราย





วันนี้ (3 ส.ค.) เมื่อเวลา 21.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ร่วมกันควบคุมตัว นายกัณตพิชญ์ หรือ มาร์ค งามเอก อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1751/60 ลงวันที่ 3 ส.ค. 60 ในข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน และอีกหลายข้อหา กรณีร่วมกับพวกอุ้มตัว นายธนบดี จิตตา อายุ 20 ปี เสี่ยเจ้าของเต็นท์รถมือสอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยจับกุมได้ที่บ้านพักภายในซอยรัชดา 36 ย่านห้วยขวาง จากนั้นนำตัวมาที่บริเวณ ชั้น 7 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจัดให้ผู้เสียหาย ทำการชี้ตัวเพื่อยืนยันตัวผู้กระทำผิด โดยมีบุคคลอื่นที่มีอายุ รูปร่าง และลักษณะการแต่งกายคล้ายคลึงกันยืนปะปนอยู่ด้วย ผลการชี้ตัว ผู้เสียหายยืนยันว่า นายกัณตพิชญ์ เป็นผู้กระทำผิดจริง

นายธนบดี กล่าวว่า ตนทำธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสองโดยได้รับซื้อรถเบนซ์มือสองจาก นายกัณตพิชญ์ ซึ่งรู้จักกันทางกลุ่มไลน์เกี่ยวกับผู้สนใจรถยนต์หรู โดยซื้อรถจากผู้ต้องหามาในราคา 3.3 แสน แต่ตนนำไปตกแต่ง ขายต่อในราคาสูง ทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจ หาว่าตนกดราคา ก่อนหน้าก็ไปแจ้งความว่าตนยักยอกทรัพย์ ที่ สน.พหลโยธิน เรื่องอยู่ในกระบวนการดำเนินคดี จนวันเกิดเหตุนัดพบกัน แต่ผู้ต้องหาพาชาย อีก 5 คน มาข่มขู่ จับตัวใส่กุญแจมือ อุ้มขึ้นรถ ปล้นทรัพย์ แต่ตนใช้ไหวพริบหนีออกมาได้ มีพลเมืองดีช่วยเหลือ

“ตอนแรกชายกลุ่มนี้อ้างว่าเป็นตำรวจสายสืบ สน.ห้วยขวาง แสดงตัวเป็นตำรวจ อ้างหมายจับ พาตนขึ้นรถไปที่ซอยเพชรเกษม 54 บังคับเอาทรัพย์สิน นาฬิกา กระเป๋า กุญแจรถเบนซ์ ระหว่างนั้นผมก็ใช้อุบายหนีมาได้ ซึ่งหลังจากหนีมาได้ ทำทีเข้าไปตรวจสอบที่ สน.ห้วยขวาง และ บก.น.1 ยืนยันว่า ชายกลุ่มดังกล่าวไม่ใช่ตำรวจแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม ที่ตนต้องออกมาร้องขอความเป็นธรรม เพราะเกรงกลัวได้รับอันตราย เพราะระหว่างถูกคุมตัว รู้สึกได้ว่าหากไม่หนีออกมาคงเอาชีวิตไม่รอด ครอบครัวถูกข่มขู่ โดยบ้านญาติที่ จ.ราชบุรี ก็มีคนไปยิงปืนขึ้นฟ้าลักษณะข่มขู่ จึงไม่ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี แล้ว” นายธนบดี ระบุ

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนขณะนี้ ออกหมายจับชาย 4 คน รู้ชื่อแล้ว 1 รายคือ นายกัณตพิชญ์ ส่วนอีก 3 คน ออกหมายจับตามภาพในกล้องวงจรปิด แต่จากการสอบปากคำนายกัณตพิชญ์ ให้การเป็นประโยชน์ รับว่า ไปว่าจ้างกลุ่มคนมีสีที่รับงานทวงหนี้ ซึ่งผู้ต้องหาเรียกกลุ่มนี้ว่า “ขาใหญ่” โดยขณะนี้กำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคล และจะไปขออนุมัติศาลเพื่อเปลี่ยนแปลงหมายจับระบุตัวบุคคล และขยายผลถึงผู้ร่วมก่อเหตุที่มีอีกอย่างน้อย 2 คน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยืนยันได้ว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ไม่ใช่ตำรวจแน่นอน หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยใด แม้จะเป็นทหารก็ไม่มีการละเว้น มาอุ้มรีดแบบนี้ไม่ได้ จะต้องจับกุมดำเนินคดีทั้งหมด