MGR Online - “ประธานศาลอุทธรณ์” แจงเหตุผลลาออกราชการ หลังถูกโยกไปนั่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา เท่ากับถูกลดศักดิ์ศรี ชี้เป็นตำแหน่งลอย แถมยังถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงอีก เมื่อถอยจนไม่มีที่ยืนก็จำเป็นต้องออกจากระบบอย่างเจ็บปวดรวดร้าว
วันนี้ (18 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งสุดท้ายถึงการลาออกจากราชการและเหตุผลต่างๆ ภายหลังไม่ได้รับเลือกจากคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา
โดยนายศิริชัยกล่าวว่า ตนลาออกจากราชการ โดยเหตุผลที่ตนไม่ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาที่กำหนดขึ้นมาใหม่นั้นเนื่องจากที่เทียบว่าตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาเท่ากับประธานศาลอุทธรณ์ ศักดิ์ศรีเท่ากันนั้นไม่จริง เพราะว่าประธานศาลอุทธรณ์เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม (ก.ศ.) โดยตำแหน่ง และเป็นอุปนายกเนติบัณฑิตยสภาคนที่ 1 แต่ตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาเป็นตำแหน่งลอย ที่เพิ่งตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก ถ้ามีการไปดำรงตำแหน่งก็จะมีปัญหาหากประธานศาลฎีกาไม่อยู่ ว่าใครจะรักษาการแทน ระหว่างรองประธานศาลฎีกาคนที่ 1 กับที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา เนื่องจากธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 8 บัญญัติไว้ว่าให้รองประธานศาลฎีกาที่อาวุโสสูงสุดรักษาการแทน
แม้กฎหมายจะให้ตั้งตำแหน่งเทียบได้ แต่ก็เป็นตำแหน่งเล็กๆ เมื่อตนเห็นว่าปัญหาจะเกิดเช่นนี้แล้วจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ไม่ขออยู่ในตำแหน่งดังกล่าว นอกจากนี้ ตามนิติประเพณีแล้วประธานศาลอุทธรณ์ซึ่งอาวุโสสูงสุดก็ควรจะไปดำรงตำแหน่งประธานฎีกา จะมียกเว้นบางกรณีที่ไม่ได้เป็นประธานศาลฎีกา แต่ก็ยังคงได้รับเกียรติเป็นประธานศาลอุทธรณ์ต่อ ไม่เคยมีการโยกย้ายไปนั่งตำแหน่งใหม่เหมือนกับปัจจุบันนี้ นอกจากนี้แล้วยังมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตนอีก ตนถอยจนไม่มีที่ยืน เมื่อไม่รู้จะถอยอย่างไรแล้ว ก็ต้องออกจากระบบอย่างเจ็บปวดรวดร้าว ไม่เคยคิดว่าชีวิตราชการที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตขยันขันแข็ง จะถูกอนุกรรมการและคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) บอกว่าตนไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นประธานศาลฎีกา
