พลเมืองดี “บังเยะ” เมสเซนเจอร์ส่งขนมหวาน เก็บกระเป๋าสตางค์ได้ภายในมีเงินสดอยู่ 10,000 ขับรถเอาไปคืนเจ้าของตามบัตรถึงบ้านแต่ไม่พบ เลยนำไปให้ตำรวจช่วยติดตามหาเจ้าของกระเป๋าจนเจอ
วันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ที่สถานีตำรวจภูธรลำลูกกา จากการเปิดเผยของนายวินัย หรือบังเยะ เล็มเยะ อายุ 46 ปี (เสื้อสีขาว) ชาวกรุงเทพฯ อาชีพเมสเซนเจอร์ส่งขนมหวาน และเป็นผู้เก็บกระเป๋าสตางค์ได้ โดยภายในกระเป๋านั้นมีเงินสดอยู่จำนวน 10,000 บาท พร้อมเอกสารสำคัญของทางราชการจำนวนหนึ่ง ได้ที่ริมถนนวงแหวนคลอง 5 ตำบลบึงคำพร้อย
บังเยะกล่าวว่า ตนเองได้ออกตามหาเจ้าของที่ระบุตามชื่อ นายสุรเดช อุปฮาด อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/28 หมู่ที่ 18 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยหลังจากส่งขนมหวานให้แก่ลูกค้าย่านคลอง 7 อำเภอลำลูกกา จนเสร็จเรียบร้อยได้ไปที่บ้านตามเลขที่แต่ปรากฏว่าไม่พบเจ้าของ ทางญาติบอกว่าย้ายออกไปแล้วและไม่มีเบอร์ติดต่อ จึงตัดสินใจเดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรลำลูกกา เพื่อลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามเจ้าของกระเป๋า เนื่องจากเขาคงต้องใช้เงินแน่ๆ อีกทั้งไม่ใช่เงินของเรา จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามหาเจ้าของ และวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อกับเจ้าของกระเป๋าสตางค์ได้จึงได้โทร.ให้เจ้าของกระเป๋าสตางค์ที่ตนเองเก็บได้ให้มารับที่สถานีตำรวจภูธรลำลูกกา และได้ส่งกระเป๋าสตางค์และเงินคืนกลับให้เจ้าของ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านที่มาโรงพักร่วมเป็นสักขีพยานและชื่นชมนายวินัย หรือบังเยะ เล็มเยะ
ด้านนายสุรเดช อุปฮาด อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/28 หมู่ที่ 18 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา กล่าวว่า ตนเป็นพนักงานบริษัทของเอกชน และได้ทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายไป ได้เข้าแจ้งความไว้ที่โรงพักลำลูกกา ภายในมีเงินสดประมาณ 10,000 บาท พร้อมบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ และเอกสารอื่นๆ ที่ทำหล่นหายไป โดยไม่ทราบว่าหายที่ใด หลังจากตนเองเข้าได้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มจำนวน 18,000 บาท จากนั้นได้แยกไว้ในกระเป๋าสตางค์จำนวน 10,000 บาท และที่เหลือเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อเพื่อไปเดินตลาดนัดและหาซื้อของใช้ พร้อมหาซื้อกับข้าว หลังจากนั้นก็ขี่จักรยานยนต์กลับบ้านย่านคลอง 5 อำเภอลำลูกกา เมื่อไปถึงบ้านสักพักจะเอาเงินให้ภรรยาและลูกก็พบว่ากระเป๋าสตางค์ที่ตนเองเก็บไว้ที่ด้านหลังกระเป๋ากางเกงได้หล่นหายระหว่างทางขณะตนเองขับขี่จักรยานยนต์กลับบ้าน จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกาไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำเอกสารไปทำบัตรประชาชนและใบขับขี่ จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทร.มาแจ้งกับตนเองว่าได้มีพลเมืองดีเป็นผู้พบกระเป๋าสตางค์ที่ระบุชื่อของตนเองมาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาเจ้าของ และจากการตรวจสอบภายในกระเป๋าต่อหน้าตำรวจก็พบว่าเงินจำนวน 10,000 บาท พร้อมเอกสารต่างๆ ยังอยู่ครบ จึงฝากขอบคุณพี่วินัย หรือบังเยะ เล็มเยะ ที่มีน้ำใจเก็บกระเป๋าสตางค์และตามหาเจ้าของจนพบ
นายสุรเดชจึงขอความขอบคุณพี่ๆ ที่มีน้ำใจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรลำลูกกาทุกท่านที่ช่วยประสาน และให้การช่วยเหลือตนเอง และคนเก็บกระเป๋าสตางค์ให้มาเจอกันดังกล่าว