MGR Online - ที่ประชุม ก.ต.มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่เห็นชอบแต่งตั้ง “ศิริชัย วัฒนโยธิน” ประธานศาลอุทธรณ์ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา ชี้เป็นผู้ที่ไม่เหมาะสมแม้จะมีอาวุโสสูงสุด รออนุ ก.ต.เสนอ “ชีพ จุลมนต์” แทน
วันนี้ (3 ก.ค.) นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ในการประชุมคณะกรรมการตุลาการยุติธรรม (ก.ต.) ครั้งที่ 13/2560 ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการโยกย้ายแต่งตั้งนายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาในวาระ 1 ตุลาคม 2560 ซึ่งคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมประจำชั้นศาลทุกชั้นศาลได้กลั่นกรองเสนอความเห็นเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมเพื่อประกอบการพิจารณา
ที่ประชุม ก.ต.เห็นว่า ในการพิจารณาแต่งตั้งผู้บริหารจะต้องคำนึงถึงความรู้ความสามารถในการบริหารงานศาลไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหลักอาวุโส ตามระเบียบคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง การเลื่อนตำแหน่ง การโยกย้ายแต่งตั้งและการเลื่อนเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการตุลาการ พ.ศ. 2554 โดยที่ประชุม ก.ต.ได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางและพิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่เห็นชอบในการแต่งตั้งให้นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา เนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าว แม้จะเป็นผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดก็ตาม
อนึ่ง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 มาตรา 50 วรรคแรก กำหนดว่า ในกรณีที่ ก.ต.ไม่ให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง การเลื่อนตำแหน่งข้าราชการตุลาการ ตามที่เลขานุการ ก.ต.เสนอตามมาตรา 47 ห้ามมิให้ ก.ต.เสนอแต่งตั้งบุคคลอื่น และในกรณีเช่นว่านี้ให้เลขานุการ ก.ต.ดำเนินการตามมาตรา 47 อีกครั้งหนึ่ง แล้วเสนอให้ ก.ต.พิจารณาใหม่ภายใน 15 วัน นับแต่งวันที่ ก.ต.มีมติดังกล่าว ซึ่งในการเสนอครั้งใหม่ห้ามมิให้เสนอบุคคลเดิม
นัดประชุม ก.ต.ครั้งต่อไป ครั้งที่ 14/2560 วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2560 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมศาลยุติธรรม ชั้น 5 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
ทั้งนี้มีรายงานว่า คณะอนุกรรมการ ก.ต.มีการพิจารณาถึง 4 ครั้ง โดยมีเสียงข้างมากว่า ไม่เห็นชอบบัญชีแต่งตั้งนายศิริชัย เป็นประธานศาลฎีกา แทนนายวีระพล ตั้งสุวรรณ ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2560 ขณะที่การเสนอเลื่อนข้าราชการตุลาการเป็นประธานศาลฎีกา ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติมาในศาลยุติธรรมโดยตลอดนั้นจะเสนอชื่อข้าราชการตุลาการที่มีอาวุโสสูงสุดซึ่งปัจจุบันคือนายศิริชัย
อนึ่ง ผู้ที่มีอาวุโสรองลงมา คือ นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา และนายธนฤกษ์ นิติเศรณี รองประธานศาลฎีกา โดยขั้นตอนต่อไปสำนักงานศาลยุติธรรมจะทำบัญชีเสนอชื่อข้าราชการตุลาการอาวุโสรองโดยต้องผ่านขั้นตอนคณะอนุกรรมการ ก.ต.ต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุม ก.ต.วันนี้ ได้พิจารณาวาระแต่งตั้งประธานศาลฎีกาคนใหม่ เป็นวาระแรกๆ โดยใช้เวลาในการอภิปรายทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้า – เย็น ก่อนจะลงมติ
ซึ่งระหว่างการอภิปรายพิจารณาความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนั้น นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกาอันดับที่ 1 ซึ่งมีตำแหน่งอาวุโสเป็นอันดับรองจากประธานศาลอุทธรณ์ ที่มีสิทธิ์จะได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานศาลฎีกา และเป็น 1 ใน 15 ก.ต.ที่เข้าร่วมประชุมวันนี้ ก็ได้ออกจากห้องประชุมระห่างการอภิปรายตามมารยาท
โดยการอภิปราย ก.ต.ได้พิจารณาในส่วนที่นายศิริชัย ประธานศาลอุทธรณ์ ยื่นหนังสือตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ขอเข้าชี้แจงเพิ่มเติมประเด็นการกลั่นกรองคุณสมบัติหลังจากที่ อนุ ก.ต. เสียงข้างมาก ลงมติไม่ผ่านคุณสมบัติ ซึ่ง ก.ต.เห็นว่า รายงานของ อนุ ก.ต.ที่ส่งมานั้นมีข้อมูลเพียงพอแล้วโดย อนุ ก.ต.เอง ก็ให้โอกาสนายศิริชัย ให้ข้อมูลถึง 2 ครั้งรวมทั้งการรวบรวมเอกสารครบถ้วนแล้ว จึงไม่อนุญาตตามหนังสือของนายศิริชัย
ทั้งนี้เมื่อ ก.ต.มีมติเอกฉันท์ ไม่ผ่านบัญชีการเสนอชื่อนายศิริชัยแล้ว ตามขั้นตอนจากนี้สำนักงานศาลยุติธรรม โดยเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ก็ต้องเสนอบัญชีรายชื่อผู้พิพากษาท่านใหม่ให้อนุ ก.ต.พิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติและลงมติใหม่ เพื่อเสนอให้ ก.ต.เลือกแต่งตั้งเป็นประธานศาลฎีกา ซึ่งรายงานข่าวแจ้ง ผู้พิพากษาตำแหน่งที่มีอาวุโส ลำดับถัดมาจากประธานศาลอุทธรณ์ คือ รองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 1 ที่ปัจจุบันนายชีพ จุลมนต์ ดำรงตำแหน่งอยู่ โดยหลังจากวันนี้ อนุ ก.ต.3 ชั้นศาลรวม 21 คน ก็ต้องนัดประชุมพิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติ เพื่อจะลงมติและเสนอรายงานให้ทันการประชุม ก.ต.ชุดใหญ่ในวันที่ 11 ก.ค.นี้