MGR Online - พ่อแม่นักโทษคดียาเสพติด ร้องกระทรวงยุติธรรมช่วยคลายปมคดีลูกชายเสียชีวิตในเรือนจำธัญบุรี เจ้าหน้าที่แจ้งสำลักอาหารตาย ขัดแย้งผลชันสูตรไม่พบเศษอาหาร มีร่องรอยของแข็งกระแทกชนเสียชีวิต
วันนี้ (3 ก.ค.) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายบุญสืบ เข็มนาค อายุ 51 ปี พร้อมด้วยนางอัมพร บัวเผื่อน อายุ 49 ปี พ่อแม่ของนายอภิชาติ เข็มนาค ผู้ต้องขังที่เสียชีวิตในเรือนจำอำเภอธัญบุรี เดินทางขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หลังเจ้าหน้าที่เรือนจำแจ้งกับญาติว่าสำลักอาหารตาย แต่เมื่อนำศพส่งผ่าตรวจพิสูจน์กลับพบว่ามีรอยช้ำ กระแทกจากการถูกของแข็งทำร้ายตามร่างกายจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี 2558
นายบุญสืบกล่าวว่า บุตรชายถูกจับในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเมื่อปลายปี 2557 ศาลมีคำสั่งตัดสิน 25 ปี แต่รับสารภาพจึงลดโทษเหลือ 15 ปี โดยช่วงระหว่างอยู่ในเรือนจำอำเภอธัญบุรีประมาณ 8 เดือน ครอบครัวได้เดินทางไปเยี่ยมบุตรชายก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ จนกระทั่งเมื่อเดือน พ.ค. 58 เจ้าหน้าที่เรือนจำแจ้งว่าบุตรชายเสียชีวิตเพราะสำลักข้าวตาย แต่ครอบครัวเชื่อว่าบุตรชายถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตเพราะมีร่องรอยบาดแผล ทั้งรอยรองเท้าและไม้กระบอง รวมทั้งผลผ่าชันสูตรจากแพทย์ไม่มีเศษอาหารภายในท้องแต่อย่างใด ตนเชื่อว่าสาเหตุน่าเป็นการตัดตอนมากกว่า
นายบุญสืบกล่าวอีกว่า ครอบครัวเคยมาร้องขอความเป็นธรรมต่อนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ สมัยเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม และให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี แต่คาดว่ามีเจ้าหน้าที่บางรายเกี่ยวข้องจึงได้ข้อมูลเท็จกลับมา นอกจากนี้ยังไปร้องเรียนอีกหลายหน่วยงาน เช่น ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปทุมธานี สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดปทุมธานี สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และแพทยสภา แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผบ.เรือนจำอำเภอธัญบุรีก็พูดไม่ตรงกับข้อมูลที่ครอบครัวได้มา และปัจจุบันได้ทำพิธีฌาปณกิจศพบุตรชายแล้วแต่ยังเก็บหลักฐานไว้ยืนยัน
ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎีเปิดเผยว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตเคยมาร้องเรียนกัต่อนายชาญเชาวน์ จึงมีการแต่งตั้งตนให้มาตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตกรณีดังกล่าวเนื่องจากอยู่ระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่เรือนจำ และพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากมีผู้อื่นทำให้ตาย โดยมีผู้ต้องขัง 1 รายสารภาพว่าเกิดจากการทะเลาะวิวาทกัน จึงส่งสำนวนให้ศาลตัดสินว่ามีความผิดและเพิ่มโทษไปอีก 6 ปีจากโทษเดิม แต่เนื่องจากครบครัวผู้เสียชีวิตไม่เชื่อว่าการรับสารภาพเป็นความจริง ทำให้คณะทำงานมีการประชุมเพื่อขอพยานหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับคดี รวมถึงต้องให้ผู้ต้องขังคนที่รับสารภาพมาเข้าเครื่องจับเท็จและย้ายไปยังเรือนจำอื่นเพื่อให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตคลายความสงสัย คาดว่าจะใช้เวลาราว 2 เดือนจึงจะสามารถสรุปได้