MGR Online - ผู้เสียหายจากธุรกิจค้าเหล็กยักษ์ใหญ่ ร้องดีเอสไอถูกทุจริตยึดทรัพย์ที่เป็นหลักค้ำประกันเพื่อกู้ยืมนำไปขายและผิดตามสัญญา เชื่อมีผู้ถูกโกงในลักษณะดังกล่าว สูญ 1 พันล้านบาท
วันนี้ (30 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) น.ส.ฐิตาภา ณ ระนอง ผู้บริหารบริษัท เค พี กรุ๊ป จำกัด 1992 จำกัด พร้อมด้วยนายสุวนิตย์ ศิริสิงหล กรรมการบริษัท อินเตอร์ โดเมสติค เคอร์เรนซี่ จำกัด ตัวแทนผู้เสียหายได้เดินทางยื่นเอกสารต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอความเป็นธรรมหลังถูกประธานบริษัทธุรกิจค้าเหล็กรายใหญ่ ทุจริตยึดทรัพย์ที่เป็นหลักค้ำประกันเพื่อการกู้ยืมนำไปขายและผิดตามสัญญา โดยมีนายบัณฑิต สังขนันท์ ผอ.ส่วนงานรับเรื่องร้องทุกข์ ดีเอสไอ รับเรื่อง
น.ส.ฐิตาภาเผยว่า บริษัทตนทำกิจการเกี่ยวกับคอมโดมิเนียม มีห้องพัก 138 ห้อง และเมื่อปลายปี 2555 ทางบริษัทจำเป็นต้องปรับปรุงคอนโดมิเนียม จึงได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ธนบุรี ให้รู้จักกับเจ้าของบริษัทค้าเหล็กรายใหญ่ดังกล่าวซึ่งเป็นผู้ปล่อยเงินกู้ ตนจึงได้ทำการตกลงกู้เงิน 57 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อเดือน รวมถึงได้ตกลงทำนิติกรรมขายฝากอาคารดังกล่าว แต่คู่สัญญากลับมีการปลอมแปลงเอกสารนำคอนโดมิเนียมไปขาย ทั้งๆ ที่ได้ใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ยคืนไปหมดแล้ว
ด้านนายสุวนิตย์เปิดเผยว่า สำหรับบริษัทของตัวเองนั้นได้เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้กับสายการบินบิสิเนสแอร์แห่งหนึ่ง จำนวนเงินกว่า 60 ล้านบาท เนื่องจากเมื่อปี 2554 สายการบินดังกล่าวขาดงบประมาณการพัฒนาสายการบิน ซึ่งการจะกู้ยืมเงินจากทางธนาคารต้องใช้เวลานานจึงได้ทำการกู้ยืมเงินกับบริษัทค้าเหล็ก แต่เมื่อมีการชดใช้เงินจนครบ ทางคู่สัญญากลับไม่คืนเอกสารใบหุ้น และสัญญากู้ยืมเงินให้กับบริษัทตัวเอง รวมทั้งนำเอกสารของบริษัทไปปลอมแปลงเพื่อเปลี่ยนรายชื่อกรรมการบริษัท โดยนำชื่อตัวเองเข้าไปอยู่ในบริษัทสายการบินดังกล่าวด้วย และมีพฤติกรรมนำสิ่งปลูกสร้าง พร้อมที่ดินของบริษัทสายการบิน ที่มีมูลค่า 800 ล้านบาท ออกประกาศขาย ทั้งๆ ที่ไม่มีอำนาจ พฤติกรรมแบบนี้คาดว่ามีผู้เสียหายกว่า 10 คน มูลค่าความเสียหายที่ถูกโกงลักษณะแบบนี้กว่า 1 พันล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะนำเอกสารการร้องเรียนส่งมอบต่อให้แก่อธิบดีดีเอสไอเพื่อพิจารณารับเป็นคดีพิเศษต่อไป