xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องหลังพิชิตคดีบึ้ม รพ.พระมงกุฎฯ-ตร.ทุ่มสุดตัว ไล่กล้อง-คัดผู้ต้องสงสัยจาก 1.2 หมืนคน จนเจอตัวจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ย้อนรอยมือระเบิด รพ.พระมงกุฎฯใช้จักรยาน และรถเมล์สาธารณะ ในการเดินทางเพื่อหลบเลี่ยงพิรุธ ใช้เวลาเปิดสวิตซ์และหน่วงเวลาระเบิดที่อาคารเฉลิมพระเกียรติก่อนเกิดเหตุ 10 นาที ซึ่งจากตรวจค้นพัก พบของกลางซึ่งมีความเชื่อมโยงกับคดีระเบิดที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ทั้ง 3 คดี

โดยเริ่มตั้งแต่วันที้่ 21 พ.ค. เวลา 16.50 น.นายวัฒนา ภุมเรศ ได้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ทะเบีบน 1 กฎ 6827 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดภายในลานจอดรถการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ขณะนั้นสวมเสื้อแขนสั้นลายพราง กางเกงขายาวสีครีม จากนั้นเดินไปยังอาคารสถานพยาบาล ก่อนจูงรถจักรยานมาที่ข้างรถยนต์ของตนเองที่นำมาจอด ต่อมาได้นำเสื้อแขนสั้นสีครีมจากภายในรถยนต์มาสวมใส่ ก่อนปั่นจักรยานคันดังกล่าว ออกไปจากลานจอดรถ ตามเส้นทางเพื่อออกประตูหลังของ กฟผ. เพื่อเดินทางไปยังยันฮีคอนโด ในเวลา 17.29 น.

ต่อมาวันที่ 22 พ.ค. เวลา 06.13 น. นายวัฒนา ได้ออกมาจากอาคารยันฮีคอนโด สวมเสื้อแขนสั้นสีครีม กางเกงขายาวสีครีม ขี่รถจักรยานมายังอาคาร กฟผ.อีกครั้ง โดยปั่นจักรยานมาจอดที่ข้างรถยนต์ของตนเองอีกครั้ง จากนั้นได้หยิบถุงพลาสตอกสีขาวขนาดใหญ่จากบริเวณประตูด้านหน้าฝั่งคนขับ ซึ่งภายในถุงพลาสติกมีแจกันดอกไม้ และช่อดอกไม้สีส้มแดง ก่อนขี่จักรยานออกจาก กฟผ.ทางด้านประตูหน้า มุ่งหน้าไปทางปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 97 จากนั้นได้ขี่จักรยานมาบนทางเท้าแล้วย้อนศรมุ่งหน้าไปยังสะพานลอยคนข้าม เพื่อข้ามสะพานลอยไปยัง ซ.จรัญฯ 96/2 และได้ขึ้นรถโดยสารประจำทาง ปอ.18 ในเวลา 07.43 น.

ต่อมาเวลา 08.43 น. นายวัฒนา ได้ลงจากประจำทางคันดังกล่าว ที่บริเวณป้ายรถประจำทางระหว่างประตู 5 และ 6 ของ รพ.พระมงกุฎเกล้า โดยได้สวมที่ปิดปากปิดจมูกอำพรางใบหน้าเดินถือถุงพลาสติกมาตาม ถนนราชวิถี ทิศทางจากแยกตึกชัย มุ่งหน้าอนุสาวรียชัยสมรภูมิ เมื่อเดินทางมาถึงประตู 6 นายวัฒนา เดินเลี้ยวซ้ายเข้าไปภายในโรงพยาบาล มุ่งหน้าไปปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ

จากนั้นเวลา 08.46 น. เดินเข้าไปภายในอาคาร และเดินเข้าไปภายในห้องวงษ์สุวรรณ ในเวลาประมาณ 08.47 น. โดยนายวัฒนา อยู่ในห้องดังกล่าวเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 33 นาที ซึ่งระหว่างนี้ นายวัฒนา ได้เปิดสวิตช์ระเบิดและเริ่มหน่วงเวลาระเบิด

จากนั้นเวลา 10.20 น. นายวัฒนาได้เดินออกมาจากห้องวงษ์สุวรรณ ก่อนเกิดเหตุระเบิดเพียง 10 นาที เท่านั้น โดยใช้มือขวากำรวบถุงพลาสติกเข้ากับด้ามร่มในลักษณะหนีบ ไม่ปรากฏวัตถุที่มีน้ำหนัก คือ แจกันดอกไม้ และช่อดอกไม้สีส้มแดงที่นำมาด้วย จากนั้นได้เดินออกจากอาคารเฉลิมพระเกียรติผ่านทางก่อสร้าง และปรากฏภาพ นายวัฒนา เดินตามถนนราชวิถี จากประตู 7 มุ่งหน้าประตู 6 เพื่อไปยังป้ายรถประจำทาง ในขณะนั้นเวลา 10.31 น. ได้มีพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้ถ่ายภาพและปรากฏภาพแจกันต้องสงสัยติดผนังที่จุดเกิดเหตุไม่นาน ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดขึ้น

เวลา 10.43 น. หลังเกิดเหตุ นายวัฒนา ได้ขึ้นรถประจำทางสาย 14 ที่ป้ายรถประจำทางระหว่างประตู 5 กับประตู 6 มุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนลงจากรถบริเวณเกาะพญาไท จากนั้นได้เดินบนสกายวอล์ก ไปยังฝั่ง รพ.ราชวิถี ก่อนลงจากสะพานมาที่บริเวณเกาะราชวิถี และไปนั่งอยู่บริเวณจุดติดตั้งตู้เอทีเอ็ม โดยนั่งอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นเวลา 18 นาที แล้วลุกเดินเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยว ต่อมาเวลา 11.31 น.ได้เดินออกมามุ่งหน้าไปยังป้อม ขสมก. จนกระทั่งเวลา 12.24 น. ได้เดินออกมาจากป้อม ขสมก. แล้วขึ้นรถประจำทางสาย 18 เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไป ยังท่าอิฐ จ.นนทบุรี

จากนั้นเวลา 13.03 น. นายวัฒนา ได้ลงจากรถ ขี่จักรยานกางร่มผ่านร้าน 7-11 ปากซอยจรัญฯ 97 มุ่งหน้าไปยัง กฟผ. บางกรวย และเข้าไปจอดบริเวณอาคารสถานพยาบาล ก่อนเดินมาที่รถยนต์ที่จอดไว้ เพื่อเก็บของในรถ และขับรถออกไปจาก กฟผ.

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ได้นำข้อมูลกล้องวงจรปิดตามเส้นทางของ นายวัฒนา มากำหนดจุดลงในแผนที่ทั้งขาไปและกลับ อีกทั้งมีการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่นายวัฒนาขับขี่ พบว่าผู้ครอบครองรถ คือ บุตรชาย ของ นายวัฒนา รวมทั้งได้สอบถามประวัติของผู้ต้องสงสัย ทราบว่าเคยทำงานที่ กฟผ. ก่อนที่จะเกษียณอายุ จากข้อมูลที่สืบสวนสอบสวนดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังจาก บก.สส.บช.น. ตำรวจนครบาล บก.ป. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรรือ อีโอดี กองกำกับการสุนัขตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจสอบบ้านพักของนายวัฒนา พบของกลางซึ่งมีความเชื่อมโยงกับคดีระเบิดที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ทั้ง 3 คดี ประกอบได้ซักถาม นายวัฒนา แล้ว ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ประกอบระเบิดด้วยตนเองที่บ้านพัก เนื่องจากไม่ชอบรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติและรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่วัดปทุมวนารามเมื่อปี 2553 รวมทั้งได้สอบถามนายวัฒนา ซึ่งรับว่าเหตุเกิดขึ้นในปี 2550 เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันถึง 3 ครั้ง บริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซินิเพล็กซ์ รัชโยธิน ตู้โทรศัพท์สาธารณะปากซอยราชวิถี 24 และตู้โทรศัพท์สาธารณะ ปากซอยข้างกองบัญชาการกองทัพบกอีกด้วย
















กำลังโหลดความคิดเห็น