xs
xsm
sm
md
lg

จนท.สงสัย “มือบึ้ม รพ.” เล็งก่อเหตุ “ศิริราช-รามาฯ” จึงชิงคุมตัว - หิ้ว “เมีย-เพื่อนสาว” เค้นหนักค่ายทหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


"มือบึ้ม รพ.พระมงกุฎ" รับวางระเบิดป่วนกรุงมาแล้ว 6 ครั้ง เจ้าหน้าที่สะกดรอยตามก่อนจับตัว พบป้วนเปี้ยน "ศิริราช - รามาฯ" หวั่นก่อเหตุจึงชิงคุมตัว ฝ่ายความมั่นคงหิ้ว "เมีย-หญิงคนสนิท" เค้นหนักค่ายทหาร แฉซื้อดินดำย่านสะพานพระราม 7 ประกอบระเบิด เจอไปป์บอมบ์ที่บ้านพัก 4 ลูก รอวางบึ้มวันสัญลักษณ์

วันนี้ (16 มิ.ย.) แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงควบคุมตัว นายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ว่า ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มแกะรอยจากกล้องวงจรปิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กระทั่งพบ นายวัฒนา เป็นบุคคลต้องสงสัย

จากการสะกดรอยนานกว่า 1 สัปดาห์ พบว่า นายวัฒนา มักจะจอดรถไว้ที่ กฟผ. ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ก่อนขึ้นโดยสารรถประจำทางไปยังสถานที่เป้าหมาย ทั้งนี้ พบว่า นายวัฒนา เดินทางไปโรงพยาบาลศิริราช และ โรงพยาบาลรามาธิบดีด้วย แต่ไม่ทราบว่าเดินทางไปทำอะไร จึงชิงเข้าควบคุมตัวไว้ก่อน หวั่นจะก่อเหตุร้าย

นอกจากนี้ จากการสอบสวนโดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง นายวัฒนา ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุวางระเบิดไปป์บอมบ์จริง โดยทำมาแล้ว 6 ครั้ง

ครั้งแรกก่อเหตุเมื่อเวลา 23.18 น. วันที่ 9 เม.ย. 50 มีการวางระเบิดในตู้โทรศัพท์สาธารณะของบริษัท ทีโอที สีส้ม ด้านหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ รัชโยธิน ถ.พหลโยหล แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ทำให้ตู้โทรศัพท์ได้รับความเสียหายไฟลุกไหม้พังยับเยิน จนประชาชนที่เดินอยู่บริเวณใกล้เคียงแตกตื่นวิ่งหนีอลหม่าน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นการก่อกวน ไม่ประสงค์ให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจากการทำระเบิดครั้งนี้จะทำให้เกิดไฟลุกไหม้ก่อน เพราะไม่มีเจตนาทำร้ายประชาชน

ส่วนครั้งที่ 2 เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 8 พ.ค. 50 เหตุระเบิดตู้โทรศัพท์สาธารณะปากซอยราชวิถี 24

ครั้งที่ 3 เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 30 ก.ย. 50 เกิดเหตุระเบิดบริเวณด้านข้างกรมแผนที่ทหารบก ติดกับกองบัญชาการทหารบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน กทม. เนื่องจากไม่ชอบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)

ส่วนครั้งที่ 4 เกิดเหตุระเบิดด้านหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราชดำเนิน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า วันที่สลายการชุมนุมเมื่อปี 53 ได้อยู่จุดดังกล่าวและมีผู้เสียชีวิต

สำหรับครั้งที่ 5 ได้ลอบวางระเบิดบริเวณด้านหน้าโรงละครแห่งชาติ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 53 มีผู้เสียชีวิตจุดนี้จำนวน 1 ราย โดยเหตุการณ์ทั้ง 5 จุด เป็นเพียงแค่การข่มขู่ที่ไม่หวังเอาชีวิตประชาชน

แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวต่อว่า และจุดที่ 6 คือ ระเบิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าตัดสินใจที่จะวางระเบิดและใส่ตะปูนำไปวางไว้ที่ห้องวงษ์สุวรรณ เพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับผู้ที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ในวันที่ทหารเข้ากระชับพื้นที่ช่วงปี 53 จึงตัดสินใจไปวางระเบิดที่โรงพยาบาลทหารในวันที่ครบรอบรัฐประหาร

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อ ว่า นายวัฒนา จะดำเนินการเพียงคนเดียว เพราะเวลาที่ก่อเหตุตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบันเป็นเวลานาน 10 ปี หากยังจับนายวัฒนาไม่ได้ เชื่อว่า จะมีแผนการวางระเบิด เพราะพบไปป์บอมบ์พร้อมทำงานภายในบ้านของนายวัฒนาอีก 4 ลูก ซึ่งในช่วงเวลานี้ยังไม่มีเหตุการณ์สำคัญ หรือวันสัญลักษณ์ จึงยังรอคอยเวลาเพื่อก่อเหตุในครั้งต่อไป

รายงานข่าวเปิดเผยว่า สำหรับวัตถุพยานในที่เกิดเหตุและที่บ้านพักที่ตรวจพบ ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าอีโอดีจะรวบรวมทั้งหมดส่งตรวจเพื่อหาความเชื่อมโยง เช่น ลวดที่ตัดเป็นท่อนๆ นำมาทำเป็นสะเก็ดระเบิด โดยทางนายวัฒนาได้ตัดลวดที่บ้านพัก และมีอีกส่วนหนึ่งเหลืออยู่ ทางเจ้าหน้าที่จะนำไปพิสูจน์ว่ามาจากชิ้นเดียวกันหรือไม่ นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวภรรยาของนายวัฒนาไว้ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) สนามเป้า พร้อมกับควบคุมตัวเพื่อนสาวคนสนิทของนายวัฒนาไว้ที่กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.) สนามเป้า เพื่อขยายผลในคดีต่อไปว่ามีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อดินดำที่ร้านค้าย่านสะพานพระราม 7 เพื่อนำมาประกอบระเบิด
ภาพจากเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam
กำลังโหลดความคิดเห็น