ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุกรณีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ตรวจเยี่ยมโรงพักไชยปราการ เบื้องต้น ตรวจสอบแล้วร้อยเวรประจำการ และพนักงานสอบสวนเวรก็อยู่ แต่ออกมารายงานตัวช้า เนื่องจากติดให้อาหารสุนัขตำรวจ และกินข้าวเย็นอยู่ในบริเวณเดียวกัน ไม่ติดใจประเด็นขาดราชการ แต่ให้ทำรายงานชี้แจง พร้อมพิจารณาปรับปรุงการบริหารจัดการงานภายในไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
วันนี้ (19 ต.ค) พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เข้าตรวจเยี่ยมการทำงานที่สถานีตำรวจภูธรไชยปราการ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ต.ค. แล้วพบตำรวจที่เข้าเวรพนักงานวิทยุปฏิบัติหน้าที่อยู่เพียงนายเดียวเท่านั้น จนทำให้ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ต้องนั่งเขียนบันทึกประจำวันด้วยตัวเอง และให้ทำรายงานชี้แจงกรณีดังกล่าวถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ภายใน 3 วัน ว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสอบถามจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ทราบว่า ระหว่างที่ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ เขียนบันทึกประจำวันอยู่นั้น ร้อยเวรประจำการ และพนักงานสอบสวนเวรได้มารายงานตัว เพียงแต่มารายงานตัวช้า
โดยตรวจสอบทราบว่า ในวันและเวลานั้น ร้อยเวรประจำการซึ่งมีหน้าที่อีกหน้าที่หนึ่ง คือ ดูแลสุนัขตำรวจ ได้ลงไปให้อาหารสุนัขที่อยู่ด้านหลังสถานีตำรวจ ขณะที่พนักงานสอบสวนเวร ได้ไปรับประทานอาหารเย็นที่บ้านพักที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน เนื่องจากเป็นช่วงหัวค่ำพอดี ซึ่งเมื่อตำรวจทั้ง 2 นายทราบว่า ผู้บังคับบัญชามาตรวจเยี่ยม จึงได้รีบมารายงานตัวทันที เพียงแต่ว่าอาจจะล่าช้าไปเท่านั้น ดังนั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จึงได้สั่งการให้เขียนรายงานชี้แจงผ่านทางผู้กำกับการสถานีขึ้นมาตามลำดับ ซึ่งรายงานดังกล่าวน่าจะมาถึงตัวเองในวันนี้
ทั้งนี้ ตามปกติบนสถานีตำรวจจะต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการปฏิบัติหน้าที่อย่างน้อย 3 นาย ได้แก่ ร้อยเวรประจำการ พนักงานสอบสวนเวร และเวรพนักงานวิทยุ อย่างไรก็ตาม จากกรณีนี้จะมีการให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยที่ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้บอกแล้วว่า ไม่ติดใจในประเด็นเรื่องการขาดราชการ แต่ต้องการให้พิจารณาว่าการปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะดังกล่าวว่ามีความสมควรหรือไม่ รวมทั้งให้มีการกลับพิจารณาปรับปรุงการบริหารการทำงานภายในสถานีต่อไป
ซึ่งจากกรณีนี้จะมีการประชุมชี้แจงกำชับการทำงานแก่ทั้ง 37 สถานีของจังหวัดเชียงใหม่ ให้เข้าใจตรงกันต่อไป