รองโฆษกตำรวจ โต้คนขับสิบล้อโพสต์คลิปอ้างถูกเจ้าหน้าที่ทำร้าย แจงคู่กรณีไม่ให้ความร่วมมือตรวจควันดำ เตะกรวยล้มขวางทาง หยิบท่อนเหล็กเพื่อทำร้ายตำรวจจึงต้องแย่งมา แล้วยังขับรถขวางถนน ยันจัดการตามแผนปฏิบัติการ จ่อฟ้อง พ.ร.บ.คอมพ์กลับ
วันนี้ (11 มิ.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยกรณีนายสถาพร มงคล ได้โพสต์คลิป ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กของตนเองเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2560 เวลา 15.34 น. (เฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า สถาพร มงคล) ขอความเป็นธรรม เรียนถึง ผบ.ตร. กล่าวคือ วันและเวลาเกิดเหตุ 26 ส.ค. 2557 เวลาประมาณ 13.00 น. สถานที่เกิดเหตุ ถ.ราชพฤกษ์ (หน้าหมู่บ้านลัดดาวัลย์ ราชพฤกษ์) เขตตลิ่งชัน กทม. (พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน) รายละเอียด เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ มีตำแหน่งระดับรอง สว. งานตรวจพิสูจน์มลภาวะ กก.5 บก.จร.ในขณะนั้น จำนวน 2 นาย และระดับ ผบ.หมู่ฯ ในขณะนั้นจำนวน 4 นาย
ตามพฤติการณ์ดังกล่าวที่ปรากฏตามคลิปขอเรียนว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุด ว.43 ตรวจวัดมลพิษ (ควันดำ/เสียงดัง) (เป็นแผนปฏิบัติการ ร่วมบูรณาการกับกรมควบคุมมลพิษ และ กทม.) ตามแผนปฏิบัติการประจำเดือน ส.ค. 2557 ที่ได้รับอนุมัติจาก ผบก.จร.โดยถูกต้องตามแผนทุกประการ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตรวจรถทั่วไป และได้เรียกตรวจรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวในคลิปตามปกติ โดยมีการปฏิบัติตามขั้นตอน วิธีและมาตรฐานการตรวจวัดควันดำของกรมควบคุมมลพิษ ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉบับลงวันที่ 9 มิ.ย. 2553 โดยเคร่งครัด และได้ตรวจวัดควันดำตามมาตรฐาน ในระบบกระดาษกรองจำนวน 2 ครั้ง และยังได้ทำการกดคันเร่งให้นายสถาพรได้ดูสภาพควันดำจากรถอีก 2 ครั้ง แต่นายสถาพร (ผู้โพสต์คลิป) ไม่ยอมรับผลการตรวจ ได้แสดงท่าทีและคำพูดไม่พอใจ และได้เตะกรวยยางจราจรสีส้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตั้งไว้บนพื้นผิวถนนเพื่อกันรถของประชาชนทั่วไปที่ใช้เส้นทางเดินถนนตามปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้นายสถาพรเก็บกรวยยางที่นายสถาพรเตะนั้น แต่นายสถาพรไม่ยอมเก็บ ทำให้การจราจรติดขัด และประชาชนผู้ใช้รถทั่วไปเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
ต่อมานายสถาพรยังได้หยิบท่อนเหล็กออกมาจากรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นดังนั้นเกรงว่านายสถาพรจะใช้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะเริ่มมีอารมณ์รุนแรงขึ้น จึงได้ทำการยึดมาถือไว้โดยมิได้กระทำการใดๆ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการจึงได้เดินเข้ามาอธิบายให้นายสถาพรทราบ ณ จุดตรวจ โดยพิจารณาแล้วว่าอาจเกิดการโต้เถียงกันไม่จบ และเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงขึ้นได้ จึงได้พิจารณาว่ากล่าวตักเตือนนายสถาพร และเมื่อนายสถาพรได้ขึ้นรถไปแล้วก็ยังมีพฤติการณ์ขับรถมาขวางถนนหน้าจุดตรวจ (ดังภาพถ่าย) อีก แสดงว่ามีเจตนาที่จะขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ประกอบกับผู้บังคับบัญชาของ บก.จร.ในขณะนั้น ได้มีข้อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่โดยใช้หลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ควบคู่กัน และให้ใช้ความอดทนอดกลั้นในการทำงานกับประชาชนอย่างถึงที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ ว.14 จุดตรวจตามกำหนดเวลาและตามแผนปฏิบัติการ
ในกรณีดังกล่าวยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปรากฏในคลิป เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้ปฏิบัติหน้าที่ไปโดยสุจริต โปร่งใส เป็นธรรม และมิได้มีการทำร้ายร่างกายนายสถาพรแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลในการพิจารณาว่าการโพสต์คลิปต่างๆ ของนายสถาพรนั้นจะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หรือไม่ อย่างไร