กลุ่มผู้เสียหายร้องดีเอสไอ ถูกบริษัทหลอกลงทุนโดยให้โพสต์รูปเด็กลงเฟซบุ๊กขายสินค้าขายน้ำดื่ม และยาสีฟัน ทุกวันๆ ละ 2 ครั้ง หลอกให้เงินปันผลทุก 15 วันของเดือน มีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 800 ราย เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ความเสียหาย 50 ล้านบาท
วันนี้ (6 มิ.ย.) เวลา 11.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวรุณ วีระกุล อายุ 44 ปี พร้อมกลุ่มผู้เสียหายเดินทางเข้ายื่นหลักฐานต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ หลังถูกบริษัท โปรเกรสชั่น แอคชิฟเม้นท์ เทรดดิ้ง จำกัด หลอกให้ร่วมลงทุนขายน้ำดื่มและยาสีฟัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท
นายวรุณกล่าวว่า ตนรู้จักกับบริษัทดังกล่าวเพราะได้รับการชักชวนจากน้องสาว และเข้าร่วมลงทุนเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา สมัครค่าเงินประกันให้แก่ลูก 2 คน คนละ 20,000 บาท เป็นเงินทั้งหมด 40,000 บาท โดยมีสัญญาผูกพัน 1 ปี แต่ต้องโพสต์รูปเด็กกับสินค้าลงเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม สื่อโซเชียลมีเดีย ทุกวันๆ ละ 2 ครั้ง ซึ่งจะได้รับเงินปันผลทุก 15 วันของเดือน ต่อมาวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ บอกว่ามีปัญหาทางการเงินจึงขอเลื่อนชำระเงินและยกเลิกการประชุมในวันที่ 20 พ.ค. ทำให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดได้รับความเสียหาย กระทั่งวันที่ 29 พ.ค. บริษัทได้ประสานมาว่าออกเป็นเช็คให้ ซึ่งผิดเงื่อนไขสัญญาที่ตกลงกันจะจ่ายเป็นเงินสด โดยทุกคนไม่รับเพราะไม่เป็นธรรม พร้อมยังมีการบังคับให้ผู้เสียหายลาออกเพื่อไม่จ่ายค่าเงินประกันและเงินทำสัญญา
“ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับผู้เสียหายรายอื่นทราบว่าบริษัทฯ เปิดมาได้ประมาณเดือน มี.ค. 60 มีการลงทุนไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป และได้ค่าตอบแทนเดือนละ 10,000-20,000 บาท หรือเงินปันผลตามการลงทุน โดยตอนแรกอ้างว่าจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อถ่ายรูปคู่สินค้าของบริษัท โพสต์ลงสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ และไม่ได้ให้ขายสินค้า แต่ต่อมากลับให้ซื้อสินค้าของบริษัทมาขายและดำเนินการส่งสินค้ามาให้ถึงบ้าน ทราบว่าปัจจุบันมีแค่บางรายได้รับเงินเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 800 ราย”
ด้าน พ.ต.ต.วรณันเปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้เสียหายต้องไปให้รายละเอียดต่อหน่วยบริการประชาชนไว้เป็นข้อมูล ส่วนการพิจารณาความผิดนั้นตอนแรก ทางบริษัทฯ ได้เชิญชวนให้โพสต์สินค้าแต่มาเปลี่ยนรูปแบบเป็นขายสินค้า และสุดท้ายไม่ได้เงิน อาจเข้าข่ายการร่วมลงทุนลักษณะแชร์ลูกโซ่ หรือการฉ้อโกงประชาชน