MGR Online - กรมคุ้มครองสิทธิฯ จับมือกรมราชทัณฑ์กำหนดแนวทางปฏิบัติแจ้งสิทธิแก่จำเลยในคดีอาญา โดยมีสาระในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องหรือยกฟ้องจำเลย ต้องแจ้งให้ทราบถึงสิทธิการได้รับค่าทดแทน
วันนี้ (21 ธ.ค.) เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมอธิบดี ชั้น 2 กรมราชทัณฑ์ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยนางจันทร์ชม จินตยานนท์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมกำหนดแนวทางในการแจ้งสิทธิแก่จำเลยในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559
นายอายุตม์กล่าวว่า กรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนดังกล่าว ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญ มาตรา 6/1 วรรค 2 กล่าวคือ “ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง หรือศาลมีคำพิพากษายกฟ้องและจำเลยถูกคุมขังอยู่ ให้เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ปล่อยตัวจำเลยในคดีดังกล่าวแจ้งให้จำเลยทราบถึงสิทธิการได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายในกรณีที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง หรือศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิดหรือการกระทำของจำเลย ไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้" และมาตรา 6/1 วรรค 3 กล่าวคือ
“เมื่อได้มีการแจ้งตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองแล้ว ให้พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ปล่อยตัวจำเลย บันทึกรายละเอียดการแจ้งนั้นไว้ในสำนวนคดีหรือทะเบียนประวัติของจำเลยซึ่งตนรับผิดชอบด้วย แล้วแต่กรณี”
นางจันทร์ชมเปิดเผยว่า ในปี 2557 กรมราชทัณฑ์ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้จัดทำบันทึกความร่วมมือขึ้น โดยมีเจตนาร่วมกันให้จำเลยได้ทราบถึงสิทธิอันจะเป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของจำเลยและส่งเสริมให้มีการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างทั่วถึง ซึ่งให้จำเลยได้ทราบถึงสิทธิของตนตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งภายหลังกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกับกรมราชทัณฑ์ได้ทำบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการแจ้งสิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และได้มีคำสั่งกระทรวงยุติธรรม ที่ 45/2559 เรื่องแนวทางปฏิบัติในการแจ้งสิทธิแก่จำเลยในคดีอาญาตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
นางจันทร์ชมเผยอีกว่า โดยขอความร่วมมือกรมราชทัณฑ์ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ปล่อยตัวแจ้งสิทธิการขอรับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนดังกล่าวที่ถูกดำเนินคดีโดยพนักงานอัยการ และถูกคุมขังในระหว่างพิจารณาคดี และต่อมาปรากฏหลักฐานชัดว่าจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิดและมีการถอนฟ้องหรือมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าจำเลยมิได้กระทำผิดหรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด เพื่อเป็นช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ตกเป็นจำเลย ตามพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวให้ง่ายต่อการเข้าถึงสิทธิให้มากยิ่งขึ้น