MGR Online - “ศานิตย์” พร้อมเจ้าหน้าที่ พฐ. ตรวจราชมังคลาฯ เก็บพลุแฟลร์ - กระป๋องควัน เช็กดีเอ็นเอ ควานหามือดีสร้างความวุ่นวายนัดชิงชนะเลิศฟุตบอล “เอเอฟเอฟ ซุูซูกิ คัพ 2016” เผยดำเนินคดีความผิดในมาตรา 397 สร้างความเดือนร้อนรำคาญ แย้มอาจฟันอาญาเพิ่ม
จากกรณีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งใช้ชื่อว่า “อัลตรา ไทยแลนด์” จุดพลุแฟลร์สีแดง จนเกิดควันและประกายไฟ ซึ่งก่อความรำคาญให้กับผู้ที่มาร่วมเชียร์การแข่งขันฟุตบอลระหว่าง ทีมชาติไทย พบ อินโดนีเซีย นัดชิงชนะเลิศ ศึกซูซูกิคัพ ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (19 ธ.ค.) เวลา 14.45 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สมพงษ์ ชิดดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รรท.รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน
โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในวันนี้พบพยานวัตถุเป็นซากพลุแฟลร์ตั้งแต่บริเวณจุดที่มีการรวมพลก่อนจะเข้ามาในสนาม และด้านในสนาม ซึ่งหลักฐานดังกล่าวถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในการสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ขณะเดียวกัน วัตถุพยานที่สามารถรวบรวมได้วันนี้ จะต้องส่งมอบให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ทราบว่า เป็นเพียงพลุดอกไม้ไฟ หรือเป็นยุทธภัณฑ์
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการออกหมายเรียกตัวผู้กระทำผิดในกรณีดังกล่าวมาดำเนินคดี เนื่องจากยังต้องรวบพยานหลักฐานเพิ่มเติมทั้งพยานวัตถุ พยานบุคคล และพยานทางนิติวทยาศาสตร์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากที่สุด จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด ซึ่งมีการระบุตัวผู้กระทำผิดไว้บ้างแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนความผิดตามมาตรา 397 เป็นความผิดลหุโทษ มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท ที่จะมีการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิดนั้น อาจจะมีการพิจารณาความผิดทางอาญาเพิ่มเติม โดยต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจน และจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวในวันเกิดเหตุ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหาย เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ สน.หัวหมาก