MGR Online - ตร.ฝ่ายสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ แต่งหญิงล่อโจรตระเวนชิงทรัพย์ รวบ 2 นักศึกษา กศน. อ้างทำไปเพราะมีหนี้สิน - จ่ายค่าเทอม สอบประวัติพบเคยก่อเหตุซ้ำมาแล้วหลายคดี นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
วันนี้ (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกระศร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ วิมลาพาณิชย์ รอง ผกก.ป.สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.ท.เมษนนท์ นาขวัญ รองผกก.สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.ต.ศุภชัย ศรีศักดิ์ สว.สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายธนวัฒน์ หรือ โจ้ ครุธสอน อายุ 18 ปี นักเรียน กศน. มัธยมต้น และ นายบิ๊ก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษา ปวช. วิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหาย พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจำนวน 1 เครื่อง, กีตาร์โปร่ง จำนวน 1 ตัว, กล้องถ่ายรูปดิจิทัล, รถ จยย. ฮอนด้าเวฟ รุ่น 125 I สีขาว ทะเบียน 5 กณ 1527 กทม., หมวกกันน็อกแบบเต็มใบจำนวน 2 ใบ, เสื้อแจ๊กเก็ตใช้ก่อเหตุ 1 ตัว, อาวุธมีดปลายแหลมและอาวุธมีดคัตเตอร์ โดยกล่าวหาว่าร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายขับขี่รถ จยย. ชิงทรัพย์ และทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 59 เวลา 22.00 น. ที่หน้าป้ายรถประจำทางหน้าห้างเอเวอรี่มอลล์ ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้ทรัพย์สินเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไปจำนวน 1 เครื่อง และผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บจากอาวุธมีด ที่แขนขวาเป็นแผลยาว 4 ซม. และใต้ราวซ้ายถูกแทงลึก 1 ซม. ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 59 เวลา 04.00 น. เกิดเหตุชิงทรัพย์บริเวณหน้าศาลหลักเมืองนนทบุรี ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี คนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินไป จากนั้นเวลา 04.10 น. คนร้ายได้ก่อเหตุชิงทรัพย์บริเวณปากซอยรัตนาธิเบศร์ 18 ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี คนร้ายได้ทรัพย์สินไปเป็นกล้องถ่ายรูปดิจิทัล และเงินสด 16 บาท และเวลา 04.23 น. คนร้ายก่อเหตุที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา สาขารัตนาธิเบศร์ ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี คนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เงินสด 100 บาท สร้อยคอสเตนเลส 1 เส้น และในวันที่ 10 ธ.ค. 59 เวลา 04.45 น. คนร้ายได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนมบุรี คนร้ายได้ทรัพย์สินเงินสด 600 บาท บัตรเอทีเอ็ม และกีต้าร์โปร่ง ก่อนหลบหนีไป
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ หลังคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์คืนเดียว 4 ครั้ง คือ วันที่ 7 - 8 ธ.ค. 59 ได้ทำการประชุมวางแผนทั้งงานปราบปรามและงานสืบสวนเพื่อจับกุมคนร้าย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ด.ต.วิเวก กมลวิบูลย์ ผบ.หมู่.สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ ปลอมตัวเป็นผู้หญิงเนื่องจากคนร้ายมักจะก่อเหตุเหยื่อที่เป็นผู้หญิง และได้ทำการซุ่มตกเบ็ดเหยื่อออกลาดตระเวนตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 59 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 59 เวลา 15.00 น. พบรถ จยย. ต้องสงสัย ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 I สีขาว ทะเบียน 5 กณ 1527 กทม. จึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบบุคคลดังกล่าว พบผู้ต้องหาทั้งสองและผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ตามวันและเวลาดังกล่าวจริง และนำตัวไปติดตามของกลางคืน
ภาพจากกล้องวงจรสามารถบันทึกภาพคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถ จยย. ย้อนศรมาตามถนนรัตนาธิเบศร์ ผ่านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โดยมี น.ส.ปราณี กำลังเดินเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นคนร้ายเห็นผู้เสียหายจึงได้กลับรถ จยย. ขับย้อนกลับมาและหยุดรถลงไปก่อเหตุชิงทรัพย์ ก่อนขับหลบหนีไป
น.ส.ปราณี อินทรอุดม อายุ 43 ปี พนักงานทำความสะอาดเทศบาลนครนนทบุรี ผู้เสียหายเหตุเกิดหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสาขารัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังทำงานอยู่ คนร้ายขับรถจยย.มา 2 คนถามทางไปเดอะมอลล์ จากนั้นใช้อาวุธมีดจี้ที่คอขอสายสร้อยทอง แต่ตนบอกว่าเป็นสเตนเลส คนร้ายได้กระเป๋าคาดไป 1 ใบ มีโทรศัพท์มือถือและเงินสดไม่ถึง 100 บาท คนร้ายไม่ได้ทำร้ายอะไร
นายบิ๊ก (นามสมมติ) ผู้ต้องหา กล่าวว่า ออกจากบ้านก่อเหตุไปตามรายทาง ได้ทรัพย์สินก็นำไปขายเอาเงินมาจ่ายเป็นค่าเทอม ส่วนเพื่อนเอาเงินไปใช้หนี้ เนื่องจากไม่มีงานทำ ตนก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ไล่ไปตามรายทางในคืนเดียว ครอบครัวไม่มีเงินพอเงินเดือนออกมาก็ใช้หนี้หมด หลังจากนี้ จะไม่ทำแล้วเข็ดกว่าจะออกมาก็เป็นลุงพอดี อย่าทำเลยทำแล้วพ่อแม่ลำบากใจ ใช้สมองคิดหน่อย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า คนร้ายทั้ง 2 เคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้ โดยนายโจ้เคยก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านเซเว่นมาก่อนและนายบิ๊กเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายที่หน้า กระทรวงพาณิชย์จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป