xs
xsm
sm
md
lg

ตร.คุมตัว “ไอ้ตั้ม” มือฆ่า บัณฑิต มศว ทำแผน ชาวบ้านนับร้อยรอดูหน้าไอ้โหด (มีคลิป)

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
MGR Online - ตำรวจกว่าร้อยนายคุมตัว ไอ้ตั้ม มือแทง - ปาดคอ บัณฑิต มศว ชิงทรัพย์ไอโฟน ทามกลางไทยมุงนับร้อยและการรักษาความปลอดภัยหนาแน่น หวั่นประชาชนรุมประชาทัณฑ์รอดูหน้า

คุมไอ้ตั้มมือมีดฆ่าชิงทรัพย์หนุ่ม มศว ทำแผน #theta360 - Spherical Image - RICOH THETA





คุมไอ้ตั้มมือมีดฆ่าชิงทรัพย์หนุ่ม มศว ทำแผน #theta360 - Spherical Image - RICOH THETA



วันนี้ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร ผบช.น. เดินทางมา สน.โคกครามประชุมวางแผนนำตัว นายกิตติกร วิกาหะ หรือ ตั้ม อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดแทง - ปาดคอ บัณฑิต มศว ชี้จุดเกิดเหตุบริปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 ย่านลาดพร้าว กทม. ทามกลางกองทัพสื่อมวลชนติดตามจำนวนมาก เพื่อรอทำข่าว

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำตัว นายกิตติกร วิกาหะ ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอชิงทรัพย์ นายวศิน เหลืองแจ่ม อดีตพนักงานภาคพื้นสนามบิน เสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุบริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 เขตลาดพร้าว หลังจับกุมได้ที่บ้านพักย่านปากเกร็ดเมื่อวานที่ผ่านมา

ซึ่ง นายกิตติกร ได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ นายพลชัย เรียงภวา ที่อยู่ระหว่างหลบหนี ก่อนลงจากรถใช้มีดจี้ชิงโทรศัพท์มือถือไอโฟน นายวศิน ก่อนใช้มีดแทงและปาดคอ นายวศิน จนเสียชีวิตก่อนหลบหนีไปทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม

โดยมีกำลังตำรวจและทหารรวม 100 นาย ดูแลความเรียบร้อย เนื่องจากมีประชาชนในที่เกิดเหตุจำนวนมาก

พล.ต.ท.ศานิตย์ ระบุว่า จะนำ นายกิตติกร ทำแผนทั้งหมด 4 จุด ที่ร่วมกับ นายพลชัย ในวันเกิดเหตุตระเวนชิงทรัพย์บริเวณถนนเลียบด่วนรามอินทรา แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน ก่อนมาก่อเหตุกับนายวศิน และยังก่อเหตุอีกบริเวณโรงพยาบาลสินแพทย์ และ พื้นที่ สน.โชคชัย เพื่อให้การทำแผนสมบูรณ์ที่สุด ยืนยันมีพยานหลักฐานชัดเจน และ นายกิตติกร ให้การรับสารภาพ แต่อยู่ระหว่างสืบสวนว่ามีการก่อเหตุในพื้นที่อื่นอีกหรือไม่ พร้อมแจ้งข้อหาหนักซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และขอให้ นายพลชัย เข้ามอบตัวตำรวจจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด พร้อมแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และสั่งการให้ตำรวจนครบาลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจจุดเสี่ยงและติดตั้งไฟส่องสว่างในพื้นที่

ทั้งนี้ นายกิตติกร ให้การรับสารภาพระหว่างแถลงข่าว ด้วยอาการไม่สะทกสะท้าน ว่า ต้องการปล้นและชิงทรัพย์ ยืนยันขณะก่อเหตุไม่ได้เมา หรือเสพยา มีสติดีทุกอย่าง ก่อนลงมือเห็นผู้ตายเดินเล่นโทรศัพท์มือถือ จึงเข้าไปทำทีถามทาง อ้างไม่ได้ปาดคอผู้ตาย แต่เป็นช่วงจังหวะมีดแฉลบไปโดนคอ วอนสังคมให้ฟังความสองข้างอย่าฟังความข้างเดียว ตนไม่ได้ตั้งใจให้เสียชีวิต เดิมประกอบอาชีพเปิดแผงขายผลไม้ย่านวัดกู้ แต่ขายไม่ดี ส่วนเพื่อนอีกคนที่อยู่ระหว่างหลบหนีรู้จักกันในคุก แต่ปฏิเสธไม่ทราบว่าหลบหนีไปไหน โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ว่านำผู้ต้องหาไปทำแผนเพื่อประกอบสำนวนให้สมบูรณ์และฝากถึงคนร้ายอีกคนที่อยู่ระหว่างหลบหนีให้เข้ามอบตัวกับตำรวจโดยเร็ว มิฉะนั้น ตำรวจจะใช้มาตรการเด็ดขาด ส่วนผู้ที่ให้ที่พักพิงหรือหลบซ่อนจะมีความผิดด้วย และฝากความเสียใจไปถึงครอบครัวผู้เสียหายด้วย

พร้อมกับยืนยันว่า ทางตำรวจจะดำเนินคดีกับคนร้ายให้ถึงที่สุด จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายกิตติกร ไปทำแผนจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 เขตลาดพร้าว เมื่อตำรวจเริ่มนำตัวผู้ต้องหาลงมาทำแผนจุดแทงนายวศิน บรรดาเพื่อนๆ ผู้ตาย และประชาชนจำนวนมากที่มาเฝ้าดูต่างร้องด่าด้วยความโกรธ และกรูกันจะเข้าประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา ตำรวจจึงต้องยกเลิกการทำแผนบริเวณดังกล่าว และนำตัวผู้ต้องหากลับก่อนเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

พล.ต.ท.ศานิตย์ นำตัว นายกิตติกร วิกาหะ หรือ ตั้ม ผู้ต้องหาใช้มีดฆ่าชิงทรัพย์ นายวศิน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุบริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 โดยใช้มีดแทงและปาดคอนายวศิน จนเสียชีวิต และหลบหนีไปทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม

ทั้งนี้ บริเวณจุดการทำแผนดังกล่าวมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจำนวนกว่า 100 นายดูแลความเรียบร้อย เนื่องจากมีเพื่อนของผู้เสียชีวิตและประชาชนเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ ต่างพากันตะโกนด่าทอ พร้อมเรียกร้องให้มีการประหารชีวิตผู้ต้องหา กระทั่งมีเหตุการณ์ชลมุนเกิดขึ้น หลังเพื่อนของผู้เสียชีวิตพยายามเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา จนเจ้าหน้าที่ต้องยุติการทำแผนในจุดนี้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายกิตติกร มาทำแผนจุดที่สอง บริเวณซอยสุคนธสวัสดิ์ 9 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายได้โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจุดนี้ไม่เป็นปัญหา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้กั้นไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ ก่อนจะคุมตัวไปทำแผนยังจุดสุดท้ายคือ บริเวณป้ายรถประจำทาง หน้าโรงพยาบาลสินแพทย์ ซึ่งผู้ต้องหาได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหาย ได้ทรัพย์สิน อาทิ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าและเงินสด จำนวน 5,000 บาท แต่ระหว่างทำแผนมีชายหนึ่งรายที่มาร่วมสังเกตุการณ์ อาศัยจังหวะทีเผลอพุ่งเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหา ด้วยการใช้มือตบเข้าที่บริเวณศีรษะของผู้ต้องหา ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่กันตัวออกไป พร้อมคุมตัวไปเปรียบเทียบปรับในข้อหาทำร้ายร่างกาย

พล.ต.ท.ศานิตย์ ระบุว่า ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งสองราย ร่วมกันตระเวนชิงทรัพย์บริเวณถนนเลียบด่วนรามอินทรา แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน ก่อนมาก่อเหตุกับนายวศิน อีกทั้งยังก่อเหตุอีกที่บริเวณซอยสุคนธสวัสดิ์ 9 และบริเวณป้ายรถประจำทางหน้าโรงพยาบาลสินแพทย์ รวมถึงพื้นที่ สน.โชคชัย ทั้งนี้ ยืนยันว่า มีพยานหลักฐานชัดเจน และ นายกิตติกร ให้การรับสารภาพ แต่อยู่ระหว่างสืบสวนว่า มีการก่อเหตุในพื้นที่อื่นอีกหรือไม่ พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและมีอาวุธติดตัวไปด้วยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ทั้งนี้ ขอให้นายพลชัย เข้ามอบตัว ไม่เช่นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด พร้อมแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังหากเกิดเหตุร้ายอย่าต่อสู้ เพื่อความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำหน้าที่ในการติดตามดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด และสั่งการให้ตำรวจนครบาลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจจุดเสี่ยงและติดตั้งไฟส่องสว่างในทุกพื้นที่

ด้าน นางกรรณิกา หลีสุข พยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า ในวันเกิดเหตุระหว่างรอรถประจำทางที่ป้ายหน้าโรงพยาบาลสินแพทย์ ผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดแล้วเดินเข้ามา จึงเข้าใจว่า จะถามทาง แต่กลับถูกกระชากกระเป๋า ซึ่งตัวเองพยายามกระชากคืนแต่สู้แรงผู้ต้องหาไม่ได้ ซึ่งภายในมีทรัพย์สินประกอบด้วยเงินสด 5 พันบาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเอกสารสำคัญ และอยากฝากเตือนให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ให้ระมัดระวังหากอยู่ในที่เปลี่ยว หรือเวลากลางคืน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนต่อที่ สน.โคกคราม ก่อนนำตัวส่งฝากขังศาลอาญา รัชดาภิเษก ในวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.) ก่อนเวลา 12.00 น.






กำลังโหลดความคิดเห็น