นำตัวหนุ่มเดินยาฯ ทำแผนย่านรามอินทรา

MGR Online - บก.น.3 นำตัวหนุ่มเดินยาเสพติดย่านรามอินทราไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ระบุได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 1 หมื่นบาท และจัดส่งยาให้ลูกค้าเดือนละ 5 ครั้ง ตร.พร้อมขยายผลตัวบงการ

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปส.บก.น.3 นำโดย พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง รรท.ผบก.น.3 พ.ต.อ.อำนาจ อินทรประสาท รอง ผบก.น.3 อำนวยการสั่งการให้ พ.ต.ท.สุรพล ก้อมน้อย รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี หัวหน้าชุด ปส.บก.น.3 ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายอานันท์ หรือบาส เลาะพึ่ง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ซ.รามอินทรา 36 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. พร้อมของกลางยาบ้าประมาณ 64,000 เม็ด และยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 1.3 กก. จับกุมบริเวณป้ายรถเมล์หน้าปากซอย รามอินทรา 38 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.ดร.ชัยพร พานิชอัตรา รรท.รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง รรท.ผบก.น.3 พ.ต.อ.อำนาจ อินทรประสาท รอง ผบก.น.3 พ.ต.ท.สุรพล ก้อมน้อย รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี หัวหน้าชุด ปส.บก.น.3 และเจ้าหน้าที่ชุด ปส.บก.น.3 ได้นำตัวนายอานันท์ ผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า 64,000 เม็ด และยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 1.3 กก.ไปชี้จุดซ่อนยาเสพติดบริเวณป้ายรถประจำทางหน้าปากซอยรามอินทรา 36 และภายในบ้านพักซอยรามอินทรา 36 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.

พล.ต.ต.ดร.ชัยพรกล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมล่อซื้อยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด จากนายอานันท์ได้ โดยนัดส่งยาบ้ากันที่บริเวณป้ายรถเมล์หน้าปากซอยรามอินทรา 38 จึงนำตัวอานนท์มาชี้จุดที่ซ่อนยาบริเวณใต้ต้นไม้ข้างป้ายรถประจำทาง โดยยาทั้งหมดห่อด้วยถุงกระดาษสีน้ำตาล และนำตัวไปชี้จุดซ่อนยาล็อตใหญ่ซึ่งอยู่ในบ้านพักซอยรามอินทรา 36 ภายในห้องนอนผู้ต้องหาบริเวณใต้ที่นอนโดยใช้กระเป๋าสะพายข้างขนาดใหญ่สีดำ บรรจุยาบ้าจำนวน 31 มัด 62,000 เม็ด อยู่ในถุงพลาสติกสีดำมัดรวมกันด้วยหนังยางห่อด้วยกระดาษสีเหลือง และยาไอซ์น้ำหนัก 1.3 กก.บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสจำนวน 3 ถุง และบรรจุอยู่ในถุงพลากสติกห่อด้วยกระดาษสีเหลือง1 ห่อ ซึ่งการนำตัวมาชี้จุดซ่อนยาครั้งนี้ตรงกับคำให้การรับสารภาพทุกอย่าง

พล.ต.ต.ดร.ชัยพรกล่าวว่า จากการสอบสวนนายอานันท์ทราบว่าผู้ต้องหาไม่ได้เรียนหนังสือหรือประกอบอาชีพใดๆ ผู้ต้องหาจะรับยาบ้าและยาไอซ์ดังมาจากนายนุ และนายเกอร์ ติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์ จากนั้นจะนัดหมายส่งบริเวณใกล้เคียงบ้านของผู้ต้องหา เช่น ใต้ทางด่วนฉลองรัช หรือตามป้ายรถประจำทางต่างๆ แต่ส่วนใหญ่จะเลือกส่งบริเวณป้ายรถประจำทางหน้าปากซอยรามอินทรา 36 เมื่อนายนุ หรือนายเกอร์ ติดต่อมาผู้ต้องหาก็จะปั่นจักรยานออกไปรับของซึ่งของส่วนใหญ่จะถูกใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายข้างหรือใส่กล่องกระดาษไว้ หลังจากนั้นจะนำยาเสพติดที่ได้มาพักไว้ภายในบ้าน และรอคนติดต่อมาเพื่อนำของไปส่งตามจุดต่างๆ ได้ค่าจ้างครั้งละ 10,000 บาทจากการโอนเงินผ่านทางธนาคาร โดยจะมีการส่งยาเสพติดถึงเดือนละ 5 ครั้ง แต่ละครั้งจำนวนยาที่รับมาจะไม่เท่ากัน ส่วนเงินที่ได้มาจะนำไปซื้อยาเคมาเสพ และใช้เที่ยวเตร่

พล.ต.ต.ดร.ชัยพรกล่าวอีกว่า ที่ต้องลงมานำชี้จุดและซักถามผู้ต้องหาด้วยตัวเองเนื่องจากได้รับมอบหมายมาจากผู้บัญชาการให้เน้นเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในท้องที่ บช.น. หากเป็นผู้ค้ารายสำคัญจำเป็นต้องลงพื้นที่เองทุกคดีเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ชุดปราบปรามยาเสพติดว่าเราเอาจริงที่จะปราบปรามยาเสพติดให้หมดไป