MGR Online - ตร.บางเขน ยังไม่ชี้ชัด นศ.สาว ม.เกษตรฯ โพสต์ถูกจี้บนรถตู้ กม.8 รามอินทรา เรื่องจริงหรือไม่ ยันสอบปากคำวินรถตู้ทั้ง 2 วินแล้ว 135 คันยังไม่มีใครทราบเรื่อง
จากกรณีที่มีนักศึกษาสาวของมหาวิทยาลัยย่านบางเขน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 59 เวลาประมาณ 09.10 น. โดยระบุว่าถูกกลุ่มคนร้ายที่อยู่บนรถตู้ประมาณ 6 คนชิงทรัพย์ ก่อนที่คนขับรถตู้จะสังเกตเห็นความผิดปกติจึงลงมาเปิดสำรวจภายในรถ แต่ชายฉกรรจ์เหล่านั้นวิ่งหลบหนีไปก่อน เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นบริเวณถนนรามอินทรา กิโลเมตรที่ 8 มาจนถึงหน้าค่ายทหารแห่งหนึ่ง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สน.บางเขน พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน เรียกประชุมฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า วันนี้ได้เรียกชุดสืบสวนมาประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีเกี่ยวกับเรื่องกล้องวงจรปิดและรถตู้ซึ่งถือว่ามีความคืบหน้าระดับหนึ่ง สำหรับภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นยังไม่มีภาพเกี่ยวกับตัวน้อง แต่ก็ยังไม่สามารถชี้ชัดอะไรได้ว่าเรื่องดังกล่าวคือเรื่องจริงหรือไม่ แต่ก็จะให้น้ำหนักโดยการเชื่อน้องก่อนซึ่งเมื่อวานได้สอบปากคำวินรถตู้ทั้ง 2 วินแล้ว รวมทั้งสิ้น 135 คันก็ไม่มีใครทราบว่ามีเรื่องที่น้องโพสต์เกิดขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทะเบียนรถและชื่อคนขับมาทั้งหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของกล้องวงจรปิดที่ตรวจสอบในขณะนี้ พบจุดที่น้องขึ้นรถตู้หรือยัง พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า ยังไม่พบจุด เพราะต้องรอสอบปากคำจากน้องก่อนว่าขึ้นจากที่ใด ส่วนกล้องที่ตรวจสอบนั้นเป็นกล้องของ กทม. ราชการ และเอกชน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าน้องให้ปากคำเกี่ยวกับโพสต์อะไรหรือไม่ พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า ตัวน้องยืนยันไปตามที่โพสต์ซึ่งตรงนั้นคือ กม.8 ถนนรามอินทรา ทางเรามีข้อมูลตามที่โพสต์ ส่วนเรื่องรายละเอียดที่ชัดเจนคงจะต้องรอหลังน้องสอบเสร็จในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย. 59 นี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะต้องประสานงานไปยังมหาวิทยาลัยเนื่องจากทางมหาวิทยาลัยขอเข้ามาดูแลนิสิตด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เราได้ไปดูกล้องวงจรปิดตั้งที่น้องขึ้นรถหรือไม่ พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า บริเวณที่น้องขึ้นรถคือ กม.8 ถนนรามอินทรา ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวก็ไม่มีภาพน้อง แต่มีคดีอื่นเกิดอยู่
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ทราบหรือไม่ว่าน้องออกมาจากคอนโดมิเนียมประมาณกี่โมง พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าน้องพักที่ไหน อย่างไร คอนโดฯ อะไร จึงยังไม่มีรายละเอียดตรงนี้
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในส่วนของจุดที่คนร้ายหลบหนีไปซึ่งมีองค์ประกอบว่ามีกรมทหาร มีป้ายรถเมล์ จากการตรวจสอบมีกี่จุดที่เข้าข่าย พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า ขณะนี้ก็ไปตรวจสอบจุดที่เป็นค่ายทหารซึ่งบางจุดก็มีกล้อง แต่เมื่อตรงสอบก็ไม่พบ บางจุดก็ไม่มี หลังจากวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้หากน้องยังไม่เข้ามาให้ปากคำก็จะต้องประสานทางมหาวิทยาลัย และคุยกับผู้ปกครองของน้องว่าตกลงจะดำเนินการอย่างไร โดยคดีที่เกิดขึ้นหากผู้เสียหายไม่ประสงค์จะร้องทุกข์ ไม่มาให้ข้อมูลใดๆ ทางตำรวจก็คงจะสืบสวนตามที่ปรากฏในรายละเอียดระยะหนึ่งแล้วก็คงจะยุติเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ขณะนี้มีกระแสว่าเรื่องดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่ เนื่องจากน้องปิดเฟซบุ๊กไปแล้ว และยังไม่มาให้ข้อมูลต่อตำรวจ กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะดำเนินการต่ออย่างไร พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า เบื้องต้นจะทำการสืบสวนว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะถ้าเกิดขึ้นจริงทางเจ้าหน้าที่ต้องติดตามจับกุมตัวคนร้านมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ถ้าไม่จริงก็จะต้องมีหลักฐานว่าน้องโพสต์ข้อความเป็นเท็จ เพราะการจะดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาจะต้องมีหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในส่วนนี้จะเอาผิดทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า ต้องดูหลักฐานเป็นหลัก เนื่องจาก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เอาผิดผู้ที่โพสต์เป็นเท็จ และโพสต์ลามกอาจารเท่านั้น แต่กรณีดังกล่าวจะต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าสิ่งที่ร้องโพสต์เป็นจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริงแต่ไม่ประสงค์จะร้องทุกข์แจ้งความใดๆ ตำรวจก็ต้องยุติ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และสอบพยานหลักฐานที่มีหมดแล้ว รอเวลาว่าน้องจะเข้าให้ปากคำเมื่อไหร่เท่านั้น สำหรับวินรถตู้นั้นยินดีที่จะมาให้ปากคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และจะไม่มีการร้องเรียนอะไร ก็จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนต่อไป
จากกรณีที่มีนักศึกษาสาวของมหาวิทยาลัยย่านบางเขน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 59 เวลาประมาณ 09.10 น. โดยระบุว่าถูกกลุ่มคนร้ายที่อยู่บนรถตู้ประมาณ 6 คนชิงทรัพย์ ก่อนที่คนขับรถตู้จะสังเกตเห็นความผิดปกติจึงลงมาเปิดสำรวจภายในรถ แต่ชายฉกรรจ์เหล่านั้นวิ่งหลบหนีไปก่อน เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นบริเวณถนนรามอินทรา กิโลเมตรที่ 8 มาจนถึงหน้าค่ายทหารแห่งหนึ่ง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สน.บางเขน พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน เรียกประชุมฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า วันนี้ได้เรียกชุดสืบสวนมาประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีเกี่ยวกับเรื่องกล้องวงจรปิดและรถตู้ซึ่งถือว่ามีความคืบหน้าระดับหนึ่ง สำหรับภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นยังไม่มีภาพเกี่ยวกับตัวน้อง แต่ก็ยังไม่สามารถชี้ชัดอะไรได้ว่าเรื่องดังกล่าวคือเรื่องจริงหรือไม่ แต่ก็จะให้น้ำหนักโดยการเชื่อน้องก่อนซึ่งเมื่อวานได้สอบปากคำวินรถตู้ทั้ง 2 วินแล้ว รวมทั้งสิ้น 135 คันก็ไม่มีใครทราบว่ามีเรื่องที่น้องโพสต์เกิดขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทะเบียนรถและชื่อคนขับมาทั้งหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของกล้องวงจรปิดที่ตรวจสอบในขณะนี้ พบจุดที่น้องขึ้นรถตู้หรือยัง พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า ยังไม่พบจุด เพราะต้องรอสอบปากคำจากน้องก่อนว่าขึ้นจากที่ใด ส่วนกล้องที่ตรวจสอบนั้นเป็นกล้องของ กทม. ราชการ และเอกชน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าน้องให้ปากคำเกี่ยวกับโพสต์อะไรหรือไม่ พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า ตัวน้องยืนยันไปตามที่โพสต์ซึ่งตรงนั้นคือ กม.8 ถนนรามอินทรา ทางเรามีข้อมูลตามที่โพสต์ ส่วนเรื่องรายละเอียดที่ชัดเจนคงจะต้องรอหลังน้องสอบเสร็จในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย. 59 นี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะต้องประสานงานไปยังมหาวิทยาลัยเนื่องจากทางมหาวิทยาลัยขอเข้ามาดูแลนิสิตด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เราได้ไปดูกล้องวงจรปิดตั้งที่น้องขึ้นรถหรือไม่ พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า บริเวณที่น้องขึ้นรถคือ กม.8 ถนนรามอินทรา ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวก็ไม่มีภาพน้อง แต่มีคดีอื่นเกิดอยู่
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ทราบหรือไม่ว่าน้องออกมาจากคอนโดมิเนียมประมาณกี่โมง พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าน้องพักที่ไหน อย่างไร คอนโดฯ อะไร จึงยังไม่มีรายละเอียดตรงนี้
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในส่วนของจุดที่คนร้ายหลบหนีไปซึ่งมีองค์ประกอบว่ามีกรมทหาร มีป้ายรถเมล์ จากการตรวจสอบมีกี่จุดที่เข้าข่าย พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า ขณะนี้ก็ไปตรวจสอบจุดที่เป็นค่ายทหารซึ่งบางจุดก็มีกล้อง แต่เมื่อตรงสอบก็ไม่พบ บางจุดก็ไม่มี หลังจากวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้หากน้องยังไม่เข้ามาให้ปากคำก็จะต้องประสานทางมหาวิทยาลัย และคุยกับผู้ปกครองของน้องว่าตกลงจะดำเนินการอย่างไร โดยคดีที่เกิดขึ้นหากผู้เสียหายไม่ประสงค์จะร้องทุกข์ ไม่มาให้ข้อมูลใดๆ ทางตำรวจก็คงจะสืบสวนตามที่ปรากฏในรายละเอียดระยะหนึ่งแล้วก็คงจะยุติเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ขณะนี้มีกระแสว่าเรื่องดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่ เนื่องจากน้องปิดเฟซบุ๊กไปแล้ว และยังไม่มาให้ข้อมูลต่อตำรวจ กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะดำเนินการต่ออย่างไร พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า เบื้องต้นจะทำการสืบสวนว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะถ้าเกิดขึ้นจริงทางเจ้าหน้าที่ต้องติดตามจับกุมตัวคนร้านมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ถ้าไม่จริงก็จะต้องมีหลักฐานว่าน้องโพสต์ข้อความเป็นเท็จ เพราะการจะดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาจะต้องมีหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในส่วนนี้จะเอาผิดทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า ต้องดูหลักฐานเป็นหลัก เนื่องจาก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เอาผิดผู้ที่โพสต์เป็นเท็จ และโพสต์ลามกอาจารเท่านั้น แต่กรณีดังกล่าวจะต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าสิ่งที่ร้องโพสต์เป็นจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริงแต่ไม่ประสงค์จะร้องทุกข์แจ้งความใดๆ ตำรวจก็ต้องยุติ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และสอบพยานหลักฐานที่มีหมดแล้ว รอเวลาว่าน้องจะเข้าให้ปากคำเมื่อไหร่เท่านั้น สำหรับวินรถตู้นั้นยินดีที่จะมาให้ปากคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และจะไม่มีการร้องเรียนอะไร ก็จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนต่อไป