กองปราบรวบแก๊งเรียกค่าไถ่ปากีฯโหด วางเพลิงเผาโรงงานเหยื่อดับกว่าสองร้อยศพ ก่อนหนีเข้าไทย (ชมคลิป)

 
MGR Online - กองปราบตามรวบแก๊งเรียกค่าไถ่ชาวปากีสถานคาโรงแรม Royal Garden Home ย่านนานา หลังเรียกค่าคุ้มครองกว่า 7 ล้านบาท ไม่ได้ ยกพวกเผาโรงงานทอผ้าอาลีเอนเตอร์ไพรซ์ ในกรุงการาจี ดับ 259 กว่าศพ สาหัส 50 ราย หนีกบดานในไทย



วันนี้ (2 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พร้อมตำรวจ กก.5 บก.ป. และ ตำรวจ กก.ปพ.บก.ป.(คอมมานโด) และทหารรวมกว่า 40 นายนำหมายค้นและหมายจับเข้าตรวจสอบห้องเลขที่ 405 ชั้น 4 ของ โรงแรม Royal Garden Home  เลขที่ 63/1-4 ซอยนานาเหนือ ถนนสุขุมวิท 3 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ หลังได้รับการประสานจากตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล ว่า หนึ่งในคนร้ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางเพลิงเผาโรงงานสิ่งทอในนครการาจี ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2555 ได้หลบหนีมากบดานที่โรงแรมดังกล่าว

จากการเข้าตรวจสอบห้องดังกล่าว พบ นายอับดุล ระมานห์ อายุ 46 ปี ชาวปากีสถาน อยู่ในห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายพบตรงกับบุคคลตามหมายจับ จึงเข้าจับกุมตัวไว้ ก่อนนำส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2555 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานทอผ้าอาลีเอนเตอร์ไพรซ์ ในกรุงการาจี ประเทศปากีสถาน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 259 คน บาดเจ็บสาหัส 50 คน หลังเกิดเหตุทางการประเทศปากีสถาน สืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าว ต่อมาศาลต่อต้านการก่อการร้าย เมืองการาจี ได้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายนี้ ตามหมายจับเลขที่ AKTC-II-K-D-1455-2016 ลงวันที่ 16 ก.ย. 2559 ภายหลังการออกหมายจับ ทางการประเทศปากีสถานสืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกนอกประเทศ โดยเดินทางมาประเทศไทย จึงได้ประสานข้อมูลมาทางกองการต่างประเทศ ก่อนที่ทางตำรวจกองการต่างประเทศจะประสานขอกำลังตำรวจกองปราบปราม ร่วมกันสืบสวนสอบสวน

พล.ต.ต.สุทิน กล่าวต่อว่า จากนั้นสืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้เดินทางเข้ามาพักที่โรงแรมดังกล่าว ชุดสืบสวนจึงรายงาน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ทราบ ก่อนลงนามในคำสั่งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพิกถอนการอยู่ต่อในราชอาณาจักรไทยตามขั้นตอน ก่อนนำกำลังตำรวจ กก.5 บก.ป. ตำรวจกองการต่างประเทศ เข้าจับกุมผู้ต้องหา ได้ที่ห้องพักดังกล่าว จากการเข้าตรวจค้นภายในห้องพัก เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ได้เก็บหลักฐานอื่นๆ เช่น เสื้อผ้า เอกสารที่อาจจะเกี่ยวข้อง เพื่อนำตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังได้รวบรวมก้นบุหรี่ที่อยู่ในห้องพัก ส่งมอบให้กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจหาดีเอ็นเอแฝง เพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.ชัย สงวนสิน รองผู้กำกับการฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 3 ดูแลงานด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับการประสานจากตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล ว่า ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกเป็นชาวปากีสถาน ซึ่งกลุ่มดังกล่าวถือเป็นองค์กรอาชญากรรมรายใหญ่ในประเทศปากีสถาน และมีพฤติกรรมเรียกเก็บค่าคุ้มครองสถานประกอบการรายใหญ่ๆ ในประเทศ โดยก่อนเกิดเหตุวางเพลิงโรงงานดังกล่าว กลุ่มผู้ต้องหาได้เรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองจากเจ้าของโรงงานจำนวน 7 ล้านบาท แต่เจ้าของโรงงานไม่ยอมจ่าย จึงก่อเหตุเผาโรงงาน ทำให้มีพนักงานในโรงงานเสียชีวิตกว่า 259 ศพ ซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมลอบวางเพลิงที่รุนแรงอันดับที่ 6 ของโลก

พ.ต.ท.ชัย กล่าวอีกว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าหนึ่งในผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้าไทยเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว โดยผ่านช่องทางผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยพบว่ามากบดานอยู่ในโรงแรม กระทั่งนำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว