MGR Online - รอง ผบ.ตร.ขีดเส้นตาย “ธัมมชโย” มอบตัวสิ้นเดือนนี้ ฝากศิษยานุศิษย์หากนำกำลังเข้าจับกุมอย่าขัดขวาง ยันบังคับใช้กฎหมาย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย เผยยินดีหากทนายต่อรองให้เข้าไปแจ้งขอหาในวัดพระธรรมกาย
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดสีคิ้วอนุมัติหมายจับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จากกรณีบุกรุกพื้นที่ป่า ในการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ ว่าทราบข้อมูลทางการข่าวว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในวัดแต่ยังไม่มีใครพบตัวซึ่งทำให้เป็นปัญหาในการอนุมัติหมายค้น โดยเรื่องนี้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 ดำเนินการตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูล ถ้าระบุว่าอยู่ภายในวัดจริงก็สามารถขอหมายค้นได้ทันที ขณะนี้ได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัด และการประสานบุคคลใกล้ชิดพระธัมมชโยเพื่อขอให้มามอบตัวภายในสิ้นเดือนนี้
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวต่อไปว่า หากทีมทนายความของพระธัมมชโยต่อรองกับพนักงานสอบสวนให้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาภายในวัด ตามกฎหมายสามารถกระทำได้ในเวลาหรือสถานที่ใดก็ได้โดยไม่ชักช้า และหากพระธัมมชโยไม่มีพฤติกรรมทำลายหลักฐานก็สามารถให้ประกันตัวได้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างนิ่มนวลเพื่อไม่ให้พระพุทธศาสนาเสียหาย คดีนี้มีผู้ต้องหามามอบตัวแล้ว 4 ราย และได้มีการสอบสวนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนสามารถส่งฟ้องคดีได้โดยที่ไม่ต้องนำตัวพระธัมมโยมาด้วย เช่นเดียวกับคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ส่วนกรณีที่พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องพระธัมมชโยในคดีฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และรับของโจรเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา และทางดีเอสไอจะเตรียมดำเนินการเข้าจับกุมนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า หากดีเอสไอร้องขอกำลังสนับสนุนการดำเนินการ ทางตำรวจก็พร้อมสนับสนุน แต่เบื้องต้นยังไม่มีการร้องขอมา ส่วนจะใช้แผนการจับกุม “กบิล 59” หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดีเอสไอ เพราะตำรวจเป็นเพียงผู้สนับสนุนด้านกำลัง ไม่ใช่เจ้าของแผน
เมื่อถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะนำกำลังเข้าไปจับกุมพระธัมมชโย พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า คำว่านำกำลังหมายความว่าอย่างไร ตนไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวไปตีความกันผิดๆ อีก ส่วนที่ตอนนี้ศิษยานุศิษย์มีการดูแลและป้องกันวัดอย่างเข้มข้นนั้น ตนยังไม่พบความเคลื่อนไหวอะไร ศิษยานุศิษย์ไม่มีอะไรกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถ้าจะมีกับหน่วยอื่นหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ส่วนจะเป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่าตำรวจจะเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาภายในวัดหรือไม่นั้น ตนยึดตามกรอบของกฎหมาย ป.วิอาญา เป็นหลัก และมั่นใจว่าพระธัมมชโยจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแน่นอน โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งแล้วว่าให้ดำเนินการตามที่ดีเอสไอร้องขอทุกกรณี ส่วนขั้นตอนจะเป็นอย่างไรก็ต้องไปถามทางดีเอสไอ พร้อมยืนยันว่างานหลักของตำรวจคือบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน
“อยากฝากถึงศิษยานุศิษย์ หากมีการนำกำลังเข้าไปจับกุมก็อย่าขัดขวาง เนื่องจากผิดกบิลบ้านกบิลเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบ และยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมาย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ และหากมีการนั่งสมาธิขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมนั้น ก็นั่งไปอย่ามาวุ่นวายหรือขัดขวางการดำเนินการของตำรวจ หากพบการขัดขวาง ทางตำรวจก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายด้วยเช่นกัน” รอง ผบ.ตร.ระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบกับด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้าออกประเทศของพระธัมมชโยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากมีการหลบหนีจริงอาจจะใช้ช่องทางธรรมชาติเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
