สน.โชคชัย แกะรอยกล้องวงจรปิดตามรวบสองผู้ต้องหาอาชีพรับจ้างก่อสร้าง ตามหมายจับคดีวิ่งราวทรัพย์ ได้ที่ซอยรัชดาภิเษก 36 อ้างตกงานประกอบกับติดยาเสพติด เลยชวนกันขี่ จยย.ตระเวนกระทำความผิดดังกล่าว
วันนี้ (22 พ.ย.) ที่ สน.โชคชัย พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย,พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส สว.สส. พ.ต.ต.กอบศักดิ์ โพธิ์วารี สว.สส. และ ร.ต.อ.จารุเดช แดงชาติ รอง สว.สส. ร่วมกันนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย จับกุมตัว นายมิน พลับพลา อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2299/2559 ลงวันที่ 22 พ.ย. 59 และนายสมหวัง นุพิศรี อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2300/2559 ลงวันที่ 22 พ.ย. 59 พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน กุญแจจักรยานยนต์ 1 ดอก รองเท้าผ้าใบ เสื้อยืดแขนยาวคอกลมสีเทา กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน หมวกนิรภัยสีดำคาดแถบขาว เสื้อเชิ้ตลายแขนยาวคอปก กางเกงยีนส์ขายาวพร้อมเข็มขัด และรองเท้าผ้าใบสีเทาคาดเหลือง โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณด้านหน้าเพิงพักไม่มีเลขที่ ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9-21-4 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สุพลเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 16 พ.ย. เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายเป็นชาย 2 คนก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ได้ทรัพย์สินโทรศัพท์มือถือ ซัมซุง โน้ต 4 จำนวน 1 เครื่อง และเงินสด 500 บาท ไปจากหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านแพน ภายในหมู่บ้านอมรพันธ์ 9 แล้วหลบหนีไป จากนั้นทางตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ตลอดจนบริเวณใกล้เคียงกระทั่งทราบตำหนิรูปพรรณคนร้าย รวมทั้งเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ต่อมาทางตำรวจสืบทราบแหล่งที่พักของคนร้ายจึงขออนุมัติศาลออกหมายจับไว้ ต่อมาวันนี้ (22 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ร่วมกันวางแผนจับกุม กระทั่งสามารถเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนไว้ได้ที่บริเวณที่พัก พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวสอบสวน สน.โชคชัย
พ.ต.อ.สุพลกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพว่า นายสมหวังมีศักดิ์เป็นอาของนายมิน ทั้งคู่มีอาชีพรับจ้างก่อสร้างทั่วไป ระยะหลังมานี้ไม่มีผู้ใดมาจ้างจนไม่มีรายได้ ประกอบกับติดยาเสพติดยาบ้าและยาไอซ์ จึงชักชวนกันขับขี่จักรยานยนต์ตระเวนตามร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านหมูกระทะ โดยเหยื่อแต่ละรายจะถือกระเป๋าใส่มือถืออยู่ และบางรายเอามือถือวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นจะเข้าไปหยิบทรัพย์สินแล้ววิ่งขึ้นจักรยานยนต์ที่จอดรอหลบหนีไป
พ.ต.อ.สุพลกล่าวต่อไปว่า ทั้งคู่ยังยอมรับว่าได้ร่วมมือกันก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้งในพื้นที่ สน.โชคชัย ครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พ.ย.เวลาประมาณ 11.00 น. คนร้ายก่อเหตุที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวดังกล่าว ครั้งต่อมาเมื่อวันที่ 19 พ.ย.เวลาประมาณ 16.00 น.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ก่อเหตุที่ร้าน 71 หมูกระทะ ได้ทรัพย์สินโทรศัพท์มือถือ โน้ต 5 จำนวน 1 เครื่องแล้วหลบหนีไป ทรัพย์สินที่ได้ส่วนใหญ่เป็นโทรศัพท์มือถือจะนำไปขายที่ร้านรับซื้อย่านซอยเสือใหญ่ โดยเงินสดที่ได้จะนำมาแบ่งกันเพื่อนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ
นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบผู้ต้องหาทั้งสองมีประวัติคดีเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ในท้องที่ สน.พหลโยธิน อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เนื่องจากทางตำรวจเชื่อว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง หากผู้เสียหายรายใดถูกคนร้ายก่อเหตุลักษณะนี้สามารถเดินทางมาอายัดคดีได้ที่ สน.โชคชัย เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย โดยการกระทำตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
