กองปราบฯ ทลายโรงงานผลิตดอลลาร์ปลอมย่านสายไหม

MGR Online - กองปราบปรามบุกจับโรงงานผลิตสกุลเงินต่างประเทศปลอมย่านสายไหม หลังได้รับการประสานจากจากเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกา มูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้

วันนี้ (16 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ก.พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตำรวจ ปอท. ตำรวจ สน.สายไหม ตำรวจสืบสวน บก.น.2 และเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าตรวจค้นห้องแถวเลขที่ 18/305 ถ.วัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. หลังสืบทราบว่าสถานที่ดังกล่าวลักลอบเปิดเป็นโกดังผลิตธนบัตรปลอมหลายประเทศ มูลค่ามหาศาล

ทั้งนี้ สถานที่ดังกล่าวเป็นห้องแถว 1 คูหา สูง 3 ชั้นจากการตรวจสอบด้านในชั้น 1 พบเครื่องจักรขนาดใหญ่ พร้อมกระดาษและอุปกรณ์ในการผลิต เช่น เพลตแม่พิมพ์สกุลเงินดอลลาร์ (อเมริกา), กีบ (ลาว) และบาท (ไทย) นอกจากนี้ยังเจอเศษกระดาษที่มีรูปสกุลเงินประเทศเกาหลีด้วย จึงควบคุมตัวนายรเมศ พระสุบิน อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่13/1 หมู่ 4 จ.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร และ น.ส.วลัยพร นุชสวัสดิ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ 3 ต.วังตะโก อ.เมือง จ.เพชรบุรี แฟนสาวของนายรเมศมาสอบสวน

จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นห้องพักที่ชั้น 2 พบปืนลูกโม่ขนาด.38 อ้างว่าเป็นของพ่อ และปืนลูกโม่ขนาด .22 อ้างว่ายืมเพื่อนมา พร้อมกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 กล่อง ขนาด .22 จำนวน 1 กล่อง อีกทั้งได้ยึดรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นเทอราโน่ 2 น้ำเงิน-บรอนซ์ ทะเบียน 8ฬ 4561 กรุงเทพมหานครอีกด้วย โดยนายรเมศรับว่าเป็นผู้เช่าและดูแลสถานที่ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2554

พล.ต.ต.สมหมายกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่จากสหรัฐอเมริกาติดต่อมายัง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ให้ช่วยติดตามกลุ่มผู้ลักลอบผลิตธนบัตรดอลลาร์ปลอม โดยก่อนหน้านี้ตำรวจอเมริกาตรวจสอบพบว่ามีการนำเงินดอลลาร์ปลอมไปใช้ในสหรัฐอเมริกา เมื่อตรวจสอบจากธนบัตรปลอมพบว่าเครื่องที่ทำการผลิตอยู่ในประเทศไทย จึงประสานให้ตำรวจ บช.ก.และตำรวจกองปราบปรามช่วยติดตามหาขบวนการดังกล่าวมาดำเนินคดี ทาง พล.ต.ท.ฐิติราชจึงตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาแก๊งผลิตดอลลาร์ปลอมมากว่า 3 เดือน กระทั่งทราบว่าเครื่องที่ใช้ในการผลิตธนบัตรดอลลาร์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่ห้องแถวเลขที่ 18/305 สถานที่เกิดเหตุ ประกอบกับทางสายลับแจ้งว่ารถนิสสันของกลางจะขับมารับธนบัตรปลอมจากบ้านหลังดังกล่าว ก่อนนำไปส่งที่ จ.ยโสธร แล้วลักลอบนำเข้าไปยัง สปป.ลาว

พล.ต.ต.สมหมายกล่าวอีกว่า สาเหตุหนึ่งที่พบว่ามีการผลิตธนบัตรสกุลเงินดอลลาร์ปลอมน่าจะเป็นเพราะมีการเปิดประชาคมอาเซียนทำให้ประเทศลาวเติบโตด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม มีแรงงานเข้ามาในระบบจำนวนมากทำให้มีนายทุนบางรายซื้อเงินปลอมเพื่อนำไปจ่ายเป็นค่าแรงให้แรงงานในประเทศลาว

ขณะที่ชุดสืบสวนทราบว่านายรเมศมีอาชีพรับจ้างพิมพ์เอกสารทั่วไป เช่น พิมพ์หนังสือ ซองผ้าป่า หากนายทุนติดต่อให้ผลิตธนบัตรปลอมก็จะรับทำเป็นกรณีไป เมื่อพิมพ์เสร็จจะรีบนำเงินปลอมดังกล่าวใส่รถนิสสันคันของกลางแล้วขับออกไปส่งให้ลูกค้าทันที เบื้องต้นรวบรวมพยานหลักฐานตรวจยึดของกลางและสอบปากคำผู้ต้องหา รวมทั้งขยายผลหานายทุนและผู้ร่วมขบวนการต่อไป ในส่วนของมูลค่าความเสียหายนั้นยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากพบว่ามีการกระทำความผิดหลายครั้งมีมูลค่ามหาศาล

จากการสอบสวน นายรเมศและ น.ส.วลัยพร สองสามีภรรยา พนักงานโรงพิมพ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้เป็นผู้พิมพ์ธนบัตรปลอมของกลางที่ตรวจยึดทั้งหมดดังกล่าวจริง โดยทำมานานตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นตอนที่ยังทำงานเป็นพนักงานในโรงพิมพ์แห่งหนึ่งย่านสี่พระยา ซึ่งรับพิมพ์พวกหนังสือเรียนและหนังสือพระทำให้มีความรู้เรื่องการผสมสีเป็นอย่างดี จึงหันมารับจ้างพิมพ์ธนบัตรปลอมเพื่อเป็นอาชีพเสริม โดยถูกว่าจ้างจาก นายลี ไม่ทราบนามสกุล นายทุนชาวลาวมาอีกที ซึ่งเมื่อพิมพ์เสร็จนายลีก็จะเป็นผู้เดินทางมารับธนบัตรปลอมด้วยตนเอง แต่ไม่ทราบว่านายลีจะเอาไปส่งต่อหรือกระจายให้กับใคร ซึ่งค่าตอบแทนที่จะได้รับนั้นจะไม่ตายตัวขึ้นอยู่กับปริมาณธนบัตรที่พิมพ์ อย่างไรก็ตามเรื่องราวทั้งหมดนั้นทางด้านเจ้าของโรงพิมพ์ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดแต่อย่างใด

นอกจากนี้จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยังทราบอีกว่า นอกจากสองสามีภรรยาคู่นี้เชื่อว่าน่าจะมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังอีกหลายคน และเป็นกลุ่มขบวนการที่ทางการสหรัฐให้ความสนใจไล่ล่าติดตามตัวมานานนับ 15 ปี เนื่องจากเป็นขบวนการที่ใหญ่สามารถผลิตธนบัตรดอลล่าห์ปลอมที่มีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่ตรวจพบมาและยากต่อการตรวจสอบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทั้งสองคนในความผิด “ร่วมกันมีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลงเงินตราซึ่งรัฐบาลประเทศออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ “ และแจ้งข้อกล่าวเพิ่มเติมกับนายรเมศ อีก 1 ข้อหาคือ “ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต“ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวนายลี ที่ผู้ต้องหาทั้งสองคนอ้างว่าเป็นผู้มารับธนบัตรปลอมดังกล่าวมาดำเนินคดีและขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป