xs
xsm
sm
md
lg

“หมอเหรียญทอง” โพสต์ระบุอดีตที่ดินพังงาถูกฆาตกรรม คนดีเอสไอรู้เห็นหวังดิสเครดิตองค์กร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา(ภาพจากแฟ้ม)
MGR Online - ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กระบุการเสียชีวิต ธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาคดีทุจริตออกโฉนดที่ดินใน จ.พังงา และภูเก็ต เป็นการฆาตกรรม มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรู้เห็น หวังทำลายความน่าเชื่อถือองค์กร

วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ได้โปรดแชร์เพื่อทราบทั่วกันว่า ผม และ รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดังที่เป็นข่าว เพียงแต่การแถลงการณ์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อ 31 ส.ค. 59 นั้น ทำให้นักข่าวและสังคมเกิดความสงสัยว่าปัญหาตับแตกของ นายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น อาจเกิดจากการปั๊มหัวใจ (Cardio-Pulmonary Resuscitation, CPR) ได้อย่างไร จนทำให้เป็นประเด็นที่ทำให้ผมในฐานะ ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ต้องกลายเป็นผู้ตกอยู่ในสถานะที่ต้องตอบคำถามนักข่าว ซึ่งผมไม่เห็นด้วยกับการแถลงในประเด็นดังกล่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และได้ชี้แจงผ่านทางเพจส่วนตัวของผมเอง และตอบข้อซักถามนักข่าวเมื่อ 1 ก.ย. 59 ไปแล้ว

เมื่อผมได้ทำหน้าที่ในฐานะ ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้ผมขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะที่เคยเป็นเสนาธิการฝ่ายยุทธการและการข่าว ว่า การเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น น่าจะเป็นการฆาตกรรมที่มีเจ้าหน้าที่ภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ รู้เห็นเป็นใจ ร่วมมือกับมือสังหารโดยที่ผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษมิได้รู้เห็น ทั้งนี้ เพื่อหวังผลกระทบทางตรงต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตกอยู่ในสถานะผู้ร้ายทางสังคม ทำให้คดีสำคัญยิ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินการอยู่ และเป็นคดีที่มีความสำคัญยิ่งกว่าคดีปลอมแปลงโฉนดที่ดินตามที่เป็นข่าวเสียอีก เพราะคดีปลอมแปลงโฉนดที่ดินจำนวนมูลค่ามหาศาลนั้น สามารถสืบสาวถึงผู้เกี่ยวข้องได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องสังหาร นายธวัชชัย อนุกูล เพื่อฆ่าปิดปากตัดตอนไปถึงผู้เกี่ยวข้องโดยใช้สถานที่ภายในที่ตั้งของกรมสอบสวนคดีพิเศษเอง แต่คดีที่สำคัญยิ่งกว่าคดีปลอมแปลงโฉนดที่ดินนั้นเป็นคดีที่มีผลต่อความมั่นคงของชาติ นายธวัชชัย อนุกูล เป็นเพียงแค่ตัวละครจากคดีปลอมแปลงโฉนดที่ดินที่บังเอิญมีความเหมาะสมที่จะนำไปสังหาร เพื่อทำให้สังคมหลงทาง หลงทิศ ไปในทิศทางว่า ผู้เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงโฉนดที่ดินเป็นผู้บงการโดยได้รับความร่วมมือจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษกลายเป็นหน่วยงานชั่วร้าย

 
ดังนั้น สังคมอย่าเพิ่งด่วนตัดสินพิพากษาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ กลายเป็นผู้ร้ายทางสังคมนะครับ เพราะจะมีผู้ที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ นำไปขยายผลให้นานาชาติไม่ยอมรับกรมสอบสวนคดีพิเศษ แล้วจะขยายผลให้ลุกลามไปจนถึงกระทรวงยุติธรรม เพื่อหวังผลให้ตนเองนำไปใช้ในการขอลี้ภัยในคดีสำคัญยิ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กำลังดำเนินการอยู่ และคนร้ายในคดีที่สำคัญยิ่งนี้กำลังตกอยู่ในสภาพใกล้จนมุมแล้ว

ผมขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ผมไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผมกลับสนับสนุนให้กำลังใจกรมสอบสวนคดีพิเศษ สืบหามือสังหารเพื่อสาวไส้ไปถึงผู้บงการเสียด้วยซ้ำ แต่ผมไม่ขอสนับสนุนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หากมีพฤติกรรมปิดคดีโดยไม่เป็นธรรมกับ นายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาที่เสียชีวิต ผมอยากให้สังคมได้ให้โอกาสกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำความกระจ่างในคดีการเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล เสียก่อนที่จะตัดสินว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้ร้ายทางสังคมกันดีกว่าครับ.... ด้วยความบริสุทธิ์ใจต่อสังคมและไม่ได้มองโลกสวยนะครับ”

MGR Online - ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กระบุการเสียชีวิต ธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาคดีทุจริตออกโฉนดที่ดินใน จ.พังงา และภูเก็ต เป็นการฆาตกรรม มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรู้เห็น หวังทำลายความน่าเชื่อถือองค์กร

วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ได้โปรดแชร์เพื่อทราบทั่วกันว่า ผม และ รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดังที่เป็นข่าว เพียงแต่การแถลงการณ์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อ 31 ส.ค. 59 นั้น ทำให้นักข่าวและสังคมเกิดความสงสัยว่าปัญหาตับแตกของ นายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น อาจเกิดจากการปั๊มหัวใจ (Cardio-Pulmonary Resuscitation, CPR) ได้อย่างไร จนทำให้เป็นประเด็นที่ทำให้ผมในฐานะ ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ต้องกลายเป็นผู้ตกอยู่ในสถานะที่ต้องตอบคำถามนักข่าว ซึ่งผมไม่เห็นด้วยกับการแถลงในประเด็นดังกล่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และได้ชี้แจงผ่านทางเพจส่วนตัวของผมเอง และตอบข้อซักถามนักข่าวเมื่อ 1 ก.ย. 59 ไปแล้ว

เมื่อผมได้ทำหน้าที่ในฐานะ ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้ผมขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะที่เคยเป็นเสนาธิการฝ่ายยุทธการและการข่าว ว่า การเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น น่าจะเป็นการฆาตกรรมที่มีเจ้าหน้าที่ภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ รู้เห็นเป็นใจ ร่วมมือกับมือสังหารโดยที่ผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษมิได้รู้เห็น ทั้งนี้ เพื่อหวังผลกระทบทางตรงต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตกอยู่ในสถานะผู้ร้ายทางสังคม ทำให้คดีสำคัญยิ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินการอยู่ และเป็นคดีที่มีความสำคัญยิ่งกว่าคดีปลอมแปลงโฉนดที่ดินตามที่เป็นข่าวเสียอีก เพราะคดีปลอมแปลงโฉนดที่ดินจำนวนมูลค่ามหาศาลนั้น สามารถสืบสาวถึงผู้เกี่ยวข้องได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องสังหาร นายธวัชชัย อนุกูล เพื่อฆ่าปิดปากตัดตอนไปถึงผู้เกี่ยวข้องโดยใช้สถานที่ภายในที่ตั้งของกรมสอบสวนคดีพิเศษเอง แต่คดีที่สำคัญยิ่งกว่าคดีปลอมแปลงโฉนดที่ดินนั้นเป็นคดีที่มีผลต่อความมั่นคงของชาติ นายธวัชชัย อนุกูล เป็นเพียงแค่ตัวละครจากคดีปลอมแปลงโฉนดที่ดินที่บังเอิญมีความเหมาะสมที่จะนำไปสังหาร เพื่อทำให้สังคมหลงทาง หลงทิศ ไปในทิศทางว่า ผู้เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงโฉนดที่ดินเป็นผู้บงการโดยได้รับความร่วมมือจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษกลายเป็นหน่วยงานชั่วร้าย

 
ดังนั้น สังคมอย่าเพิ่งด่วนตัดสินพิพากษาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ กลายเป็นผู้ร้ายทางสังคมนะครับ เพราะจะมีผู้ที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ นำไปขยายผลให้นานาชาติไม่ยอมรับกรมสอบสวนคดีพิเศษ แล้วจะขยายผลให้ลุกลามไปจนถึงกระทรวงยุติธรรม เพื่อหวังผลให้ตนเองนำไปใช้ในการขอลี้ภัยในคดีสำคัญยิ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กำลังดำเนินการอยู่ และคนร้ายในคดีที่สำคัญยิ่งนี้กำลังตกอยู่ในสภาพใกล้จนมุมแล้ว

ผมขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ผมไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผมกลับสนับสนุนให้กำลังใจกรมสอบสวนคดีพิเศษ สืบหามือสังหารเพื่อสาวไส้ไปถึงผู้บงการเสียด้วยซ้ำ แต่ผมไม่ขอสนับสนุนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หากมีพฤติกรรมปิดคดีโดยไม่เป็นธรรมกับ นายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาที่เสียชีวิต ผมอยากให้สังคมได้ให้โอกาสกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำความกระจ่างในคดีการเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล เสียก่อนที่จะตัดสินว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้ร้ายทางสังคมกันดีกว่าครับ.... ด้วยความบริสุทธิ์ใจต่อสังคมและไม่ได้มองโลกสวยนะครับ”


รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความคืบหน้าการเสียชีวิตของนายธสัชชัยนั้น เมื่อเวลา 12.30น. วันนี้(3 ก.ย.) พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เดินทางไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่ห้องขัง 6008 ชั้น 6 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่นายอนุกูลผูกคอตัวเอง ขณะเดียวกันเวลาประมาณ 13.00น. ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 3 คน ได้ประสานเข้าพบกับทางพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีดังกล่าวและนำหลักฐานกล้องวงจรปิดในช่วงวันเวลาที่เกิดเหตุมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยหรือเผยแพร่ภาพได้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ทราบอยู่

ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบโต้ในเรื่องดังกล่าว เพราะอาจมองเป็นการแก้ตัว หลังจากนี้ให้รอผลการตรวจสอบที่ นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรมสั่งตั้งกรรมการระดับกระทรวงที่เป็นคนกลางจากภายนอกทั้งหมดเข้ามาตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส โดยจะเน้นตรวจสอบสภาพศพเป็นหลัก ส่วนต้องผ่าพิสูจน์ซ้ำหรือไม่ขอให้เป็นดุลยพินิจของแพทย์คนกลาง

"สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากมีข้าราชการดีเอสไอกระทำผิดเอง ผมก็ไม่มีเหตุผลต้องปกป้องเพราะหลังเข้ารับตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอก็เคยมีคำสั่งไล่ออกเจ้าหน้าที่ทุจริตไปแล้วหลายราย"พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น