MGR Online - ตำรวจอยุธยาตามรวบแก๊งแฮก K-Cyber ธนาคารกสิกรไทย บัญชีพ่อค้าประดับยนต์ สูญเงินเกือบล้านบาท สารภาพทำมาแล้ว 9 ครั้งได้เงินไปแล้วกว่า 3 ล้านบาท
รวบแก๊งแฮก K-Cyber กสิกรไทย พ่อค้าประดับยนต์ สูญเงินเกือบล้าน #theta360 - Spherical Image - RICOH THETA
วันนี้ (25 ส.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ บก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็ม รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา และพ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว รอง ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายเอกพจน์ รัตนากร อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/2 ม.7 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี, นายพัฒนรสพงษ์ ก้านสนธิ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.5 ต.อี่หล่ำ อ.อุมุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ, นายสยาม เทืองผล อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.7 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี, นายสุริไกร อนุมาตย์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.12 ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี, นายวิศรุต ศุภนาค อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 343 ม.8 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี และนายไนท์ (นามสมมติ) เยาวชน อายุ 17 ปี พร้อมของกลางรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวารา สีเทา ทะเบียน บษ 1760 ราชบุรี โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง
พล.ต.ต.สุทธิกล่าวว่า พฤติการณ์จับกุมสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา นายพันธ์สุธี มีลือกิจ อายุ 28 ปี พ่อค้าร้านประดับยนต์ได้เดินทางเข้าเเจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา หลังเงินในบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาอยุธยา หายไปจำนวน 986,700 บาท โดยเบื้องต้นเชื่อว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาทำทีเป็นสั่งซื้อสินค้าผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนขอหลักฐานหน้าบัตรประชาชนอ้างว่าเป็นการซื้อครั้งแรกเพื่อความมั่นใจ นายพันธุ์สุธีจึงส่งภาพหน้าบัตรประชาชนโดยปกปิดเลขที่บัตรประชาชน 13 หลักเอาไว้ และกลุ่มคนร้ายยังให้นายพันธุ์สุธีสมัครบริการ K-Cyber Banking เพื่อเอาไว้รับเงินโอนอีกด้วย ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะเงียบหายไป
กระทั่งในเวลาต่อมา นายสยาม หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาใช้สำเนาบัตรประชาชนปลอมของนายพันธุ์สุธีไปขอซิมการ์ดใหม่เบอร์เดิมที่ร้านทรูช้อป สาขาเมกา บางนา ก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งคอลเซ็นเตอร์เพื่อขอเปลี่ยนรหัสผ่านบริการ K-Cyber Banking ธนาคารกสิกรไทย แล้วทำการโอนเงินจากบัญชีนายพันธุ์สุธี จำนวน 3 ครั้ง รวม เป็นเงินจำนวนดังกล่าวไปยังบัญชีของนายสุริไกรที่คนร้ายเตรียมไว้ ก่อนลงมือถอนเงินออกไปจนหมด ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสืบสวนพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวมีจำนวน 6 คน จึงออกติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้
โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง และได้ร่วมกันกระทำผิดในลักษณะนี้มาแล้วหลายพื้นที่ จำนวน 9 ครั้ง รวมความเสียหายประมาณ 3,215,030 บาท โดยเริ่มจากการสวมรอยเป็นผู้บริการเว็บไซต์โต๊ะพนันบอลต่างประเทศผ่านทางอินเทอร์เน็ต จนพัฒนามาสู่การหลอกลวงผู้เสียหายผ่านทางระบบมือถือ โดยเงินที่ได้จะนำมาเที่ยวเตร่ เล่นการพนัน และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
พล.ต.ต.สุทธิกล่าวอีกว่า พฤติการณ์ผู้ต้องหากลุ่มนี้จะทำทีเป็นติดต่อสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเฟซบุ๊ก เพื่อต้องการเอาข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย เช่น เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด และหมายเลขโทรศัพท์ แล้วหลอกลวงให้ผู้เสียหายสมัครบริการอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง จนกระทั่งกลุ่มผู้ต้องหาทราบถึงข้อมูลต่างๆ ของผู้เสียหาย ก่อนสวมรอยโอนเงินไปยังบัญชีที่กลุ่มผู้ต้องหาเตรียมไว้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีต่อไป
