MGR Online - รมว.ยุติธรรม เผย คำสั่ง คสช. 47 ให้ ศอตช. ตั้งกรรมการกลางสอบซํ้าเจ้าหน้าที่รัฐ และตำรวจ ถูก ม.44 เด้ง หลังเอี่ยวค้ามนุษย์ เพราะ ปชช. ท้วงติงหน่วยอาจสอบช่วยเหลือกัน วอนอย่ามองเอะอะก็ให้อำนาจเพียงตน รับจ่อปรึกษา “วิษณุ” คำสั่งมีผลย้อนหลังกับการคืนตำแหน่งหรือไม่
วันนี้ (19 ส.ค.) กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี มีคำสั่ง คสช.ที่ 47/2559 ให้ประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ใช้มาตรา 44 แต่งตั้งคณะบุคคลให้สอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาการค้ามนุษย์ ว่า มาจากคำสั่ง คสช. ที่ 33/2559 จากเหตุการณ์มีเจ้าหน้าที่รัฐและตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกรณีส่วยคดีค้ามนุษย์ ส่วยอาบ อบ นวด นาตารี ห้วยขวาง, ล้งกุ้งที่ จ.สมุทรสาคร และ อ.สะเดา จ.สงขลา และในคำสั่งก็ได้ระบุให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายใน 30 แล้วให้รายงาน ศอตช. รับทราบ ถ้าหน่วยต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้วไม่มีเหตุแห่งมูลความผิดให้ดำเนินการโยกย้ายกลับไปตำแหน่งเก่านั้น ทั้งนี้ ก็มีเสียงจากประชาชนว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าไม่มีการช่วยเหลือกัน ซึ่งก็จะเกิด 2 มุมมอง คือ 1. ไว้ใจราชการ 2. มีกระบวนการสอบเอื้อช่วยเหลือกันได้
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า คำสั่ง คสช. 47 จึงออกมา โดยให้ในฐานะประธาน ศอตช. ตั้งคณะกรรมการกลาง ขึ้นมาตรวจสอบอีก ซึ่งตนกำลังทาบทาม อัยการ นักกฎหมาย และอีกหลายคนมาร่วมเป็นกรรมการตรวจสอบ โดยคำสั่งดังกล่าวยังระบุว่า หากผลสอบของกรรมกลางที่ ศอตช. ตั้งขึ้นกับต้นสังกัดตรงกันก็ให้เป็นอันยุติ แต่ถ้าไม่ตรงกันให้เสนอข้อมูลพยานหลักฐานขึ้นไปยังหัวหน้า คสช. และท้ายสุดหากผลการสอบของคณะกรรมการประจำหน่วยนั้น ๆ ไม่ตรงกับคณะกรรมการกลาง และมีเหตุผลเชื่อได้ว่าสนับสนุนกัน คณะกรรมการชุดนั้นต้องรับผิดชอบ
“บางคนจะบอกว่าติดดาบให้ผมอีกแล้ว นั่นไม่ใช่ ผมเองไม่ได้มีหน้าที่ทำ แต่ต้องมีหน้าที่จัดตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งและนั่งเป็นประธาน โดยการตรวจสอบเจ้าหน้าที่หลังจากนี้จะเป็นเช่นนี้ตลอดไป เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลนี้เอาจริงเอาจังกับเจ้าหน้าที่ละเลย แม้แต่ผู้บังคับบัญชา เพราะอยู่ในพื้นที่ตัวเองต้องรับผิดรับชอบ ซึ่งกรณีนี้ผู้ถูกสอบและผู้สอบจะมีโทษทั้งทางอาญาและวินัย โดยในส่วนผู้สอบคือผู้บังคับบัญชาแม้ไม่รู้ก็ต้องมีโทษทางวินัยด้วย”
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีบางหน่วยที่มีการสอบสวนแล้วคืนตำแหน่งก่อนคำสั่งดังกล่าวจะออกส่งผลอะไรหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า กรณีนี้ต้องปรึกษาถามจาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก่อนว่าคำสั่งดังกล่าวจะมีผลผูกพันถึงกรณีที่ต้นสังกัดคืนตำแหน่งให้ข้าราชการที่ถูกย้ายตามมาตรา 44 ไปแล้วหรือไม่