xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อโร่ร้องกองปราบฯ ตามจับ “หม่อมลูกปลา”-เท้าแชร์รายใหญ่ ตุ๋นเงิน 300 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ทนายพาเหยื่อกว่า 50 ราย ร้องกองปราบปรามตามจับเท้าแชร์หลังโดนหลอกเล่นแชร์ลูกโซ่ผ่านไลน์-เฟซบุ๊กที่ “หม่อมลูกปลา” มีเอี่ยว ซ้ำแจ้งความกลับโดนข่มขู่ รวม 3 กรณี สูญเงินกว่า 300 ล้านบาท



วันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้พาผู้เสียหายกว่า 50 คนซึ่งถูกหลอกลวงให้เล่นแชร์ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ และเฟซบุ๊ก รวม 3 กรณี เดินเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสน บก.ป.เพื่อดำเนินคดีต่อแม่ข่ายหรือเท้าแชร์ที่หลอกลวงให้เล่นแชร์ดังกล่าวรวมมูลค่าเสียหายนับร้อยล้านบาท โดยนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบไว้เป็นหลักฐาน

นายสามารถกล่าวว่า ภายหลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายในลักษณะแชร์ลูกโซ่ 3 กรณี จึงนัดหมายกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้ โดยกรณีแรกเป็นกรณีการหลอกลวงทางแอปพลิเคชันไลน์ หรือทางเฟซบุ๊ก ซึ่งพัวพันกับ น.ส.โชติกา หรือชลาศัย ขวัญฐิติ หรืออดีตหม่อมชลาศัย ยุคล ณ อยุธยา หรือหม่อมลูกปลา มีการชักชวนให้เล่นแชร์โดยลงทุนเป็นแพกเกจห้องโกลด์สตาร์ เริ่มต้นที่ 5,150 บาท มีการจ่ายดอกเบี้ยเป็นเงินปันผลทุกสัปดาห์ สัปดาห์แรกจ่ายปันผล 1,000 บาท สัปดาห์ที่ 2 จ่าย 3,000 บาท และสัปดาห์ที่ 3 จ่ายเงินปันผล 4,000 บาท เท่ากับผู้เสียหายจะได้รับเงิน 8,000 บาท ภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ โดยต้องโอนเงินเพื่อเล่นแชร์ดังกล่าวผ่านทางบัญชีธนาคารของนายธัชชัย ฉิมประสูติ เท้าแชร์

นายสามารถกล่าวต่อว่า เมื่อมีการลงทุนเล่นแชร์กันมากขึ้น ทางนายธัชชัย อ้างว่า บัญชีธนาคารถูกเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อายัดไว้ จึงเปลี่ยนบัญชีธนาคารที่ให้ผู้เสียหายโอนเงินเป็นบัญชีของ น.ส.โชติกา โดยมีการตั้งชื่อห้องใหม่ว่า ทรัพย์ทวี+โกลด์สตาร์ และเปลี่ยนแพกเกจการหลอกลวงใหม่ ให้เสียค่าสมัครเป็นเงิน 300 บาท ลงทุนเล่นแชร์ 5,000 บาทต่อ 1 รหัส จะได้รับผลตอบแทนสัปดาห์ละ 1,625 บาท เมื่อครบ 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน จะคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยปันผลเป็นกำไร รวม 11,500 บาท ทำให้มีผู้หลงเชื่อเล่นแชร์วงดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยพบว่ามีผู้เสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 200 คน รวมมูลค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อทราบว่าจะมีการแจ้งความทางเท้าแชร์ก็ได้ข่มขู่

นายสามารถกล่าวอีกว่า สำหรับในกรณีที่ 2 เป็นวงแชร์ที่มีชื่อห้องว่า “อุ้มบุญพันทวี” ของนางพันทวี พันธ์กล่ำ เป็นเท้าแชร์ พบว่ามีผู้เสียหายร่วมเล่นแชร์ไม่ต่ำกว่า 100 คน วิธีการหลอกลวงนั้นทางเท้าแชร์รายนี้อ้างว่าเมื่อนำเงินมาลงทุนจะให้ดอกเบี้ยปันผลร้อยละ 10 ต่อวัน ไม่จำกัดยอดเงินในการเล่น โดยพบว่าเกิดความเสียหายขึ้นแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

นายสามารถกล่าวว่า ในขณะที่กรณีที่ 3 เป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้เล่นแชร์ซิมการ์ดเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ โดยพฤติการณ์ของผู้กระทำความผิดจะชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนซื้อแพกเกจเป็นเงินหุ้นละ 15,000 บาท ได้รับโบนัสวันเว้นวันเป็นเงิน 1,200 บาท ซึ่งผู้เสียหายแต่ละรายจะลงทุนได้ไม่เกิน 15 หุ้น และไม่สามารถถอนเงินออกได้หากยังไม่ครบกำหนด 3 เดือน โดยมีผู้ตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 1,000 คน รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน บก.ป.ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ในเบื้องต้น ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป





กำลังโหลดความคิดเห็น