MGR Online - “ลุงวัย 69 ปี” ฉีกบัตรลงประชามติคาคูหาย่านประชาอุทิศ เผยไม่มีเจตนาฉีก พบบัตรมีเส้นประขีดไว้เข้าใจว่าบัตรมี 2 ส่วน ก่อนตำรวจปล่อยตัวไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา พบไม่มีเจตนา
วันนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.05น. หน่วยเลือกตั้งที่ 47 ซอยประชาอุทิศ 72 แขวง/เขตทุ่งครุ กทม. นายพิพัฒน์ แพสุวรรณรักษ์ อายุ 69 ปี ได้เดินทางเข้ามาใช้สิทธิในการออกเสียงประชามติ เมื่อนายพิพัฒน์ ได้รับบัตรออกเสียงจึงเดินเข้าไปในคูหา ได้ขีดเครื่องหมายถูกไว้ในช่องที่ให้ทำเครื่องหมายทั้ง 2 ช่อง นายพิพัฒน์ เห็นบัตรมีรอยแบ่งครึ่งจึงเข้าใจว่าให้ฉีกเป็น 2 ส่วน จึงได้ทำการฉีดบัตร จากนั้นได้นำบัตรไปสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยว่า แต่ละส่วนของบัตรที่ฉีกจะนำไปหย่อนกล่องใด เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่า ไม่สามารถฉีกบัตรแบ่งส่วนได้ จึงทำการควบคุมตัวนายพิพัฒน์ มาสอบถาม
เบื้องต้น พันจ่าเอกสามารถ สง่างาม ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งหน่วยเลือกตั้งที่ 47 และนางพิทยาภรณ์ พิทยากุล ผู้อำนวยการหน่วยเลือกตั้งที่ 47 ได้สอบถาม นายพิพัฒน์ กระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ พ.ศ.2559 จากนั้น ด.ต.บันเทิง วรรณทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 47 จึงประสานชุดเคลื่อนที่เร็ว สน.ทุ่งครุ นำตัวนายพิพัฒน์ มาสอบปากคำที่ สน.ทุ่งครุ
พ.ต.ท.สุวัฒน์ องคอง รอง ผกก.(สอบสวน) ได้รับตัวนายพิพัฒน์ ไว้ทำการสอบปากคำแล้ว และได้ประสานชุดสืบสวนตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎรเพื่อหาพยานหลักฐาน และได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานตามข้อ 1 เวลา 08.45 น. หากพบว่า มีพยานหลักฐานอื่นที่เชื่อมโยงอันอาจจะเข้าข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ หรือกฎหมายอื่นจะดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.น.8 กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายพิพัฒน์ มีอาชีพสุจริต และไม่มีเจตนาจะฉีกบัตร ซึ่งทางตนได้ทำหนังสือไปยัง กกต. เพื่อสอบถามว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ถ้า กกต. ชี้ว่ามีความผิดก็จะทำการดำเนินคดี หากชี้ว่าไม่มีความผิดก็ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัว นายพิพัฒน์ พร้อมทั้งยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา
ด้าน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนได้นัดกับน้องสาวว่าหลังจากลงประชาติเนื่องจากเป็นหน้าที่ของชาวไทย หลังจากลงประชามติเสร็จจะไปทำบุญที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และเมื่อตนไปตลาดก่อนเข้าบ้านจึงแวะเข้าคูหาโดยตนได้ลงชื่อเข้ารับสิทธิเป็นคนที่ 2 ของหน่วย ขณะที่กากบัตรนั้นตนเห็นมีเส้นประขีดไว้ และมีสองสี จึงเข้าใจว่าบัตรดังกล่าวต้องแยกเป็น 2 ส่วน ภายหลังจากที่กาบัตรเสร็จจึงฉีกบัตรดังกล่าวออก จากนั้นได้นำไปให้เจ้าหน้าที่หย่อนที่กล่องใด ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถฉีกบัตรได้ อย่างไรก็ตาม การฉีกบัตรดังกล่าวตนไม่มีเจตนา โดยความสุจริตใจ
ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า บัตรลงประชามติมีความแตกต่างจากบัตรที่ผ่านมาหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนจำไม่ได้ แต่บัตรครั้งนี้มันมี 2 แถบสี เข้าใจว่าต้องแยกเป็น 2 ส่วน จึงตัดสินใจฉีกบัตร และตนไม่ค่อยได้ดูโทรทัศน์เลยไม่ทราบขั้นตอน