xs
xsm
sm
md
lg

กรมราชทัณฑ์เร่งควบคุม H1N1 ในเรือนจำนราฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ แจงคุมไข้หวัด H1N1 คุกนราฯ ได้แล้ว พบผู้ต้องขังเข้าข่ายติดเชื้อ 375 ราย ผู้คุม 4 ราย สั่งป้องกันเข้มทุกเรือนจำ

วันนี้ (4 ส.ค.) เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ส่งเอกสารแถลงข้อเท็จจริง “กรณี ผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H1N1” โดยระบุว่า ตามที่ปรากฏตามสื่อ ว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 (H1N1) นั้น กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ได้รีบดำเนินการในการควบคุมโรคดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ซึ่งในขณะนี้สามารถควบคุมโรคได้แล้ว กรมราชทัณฑ์ได้มอบหมายให้ นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ ผอ.ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ นพ.สุทธวีร์ ปังคานนท์ นายแพทย์ปฏิบัติการ และคณะเจ้าหน้าที่เวชศาสตร์ฟื้นฟู ลงพื้นที่ด่วน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและความคืบหน้าของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 (H1N1) สามารถสรุปข้อเท็จจริง ดังนี้

ในระหว่างวันที่ 23 - 24 ก.ค. ที่ผ่านมา เรือนจำจังหวัดนราธิวาสได้ตรวจพบผู้ต้องขัง จำนวน 1 ราย เจ็บป่วยมีอาการเป็นไข้สูง ไอ คล้ายไข้หวัด ในวันต่อมาพบผู้ต้องขังป่วยในอาการเดียวกันเพิ่มขึ้น จำนวนหลายราย จึงได้รีบประสานกับโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ในการจัดทีมแพทย์ พยาบาล เข้าตรวจรักษาอาการ และมีการสุ่มเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วย โดยส่งตัวอย่าง (specimen) ไปตรวจที่ศูนย์กรมควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา และศูนย์ฯ ได้แจ้งผลกลับมาเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ผลตรวจพบว่า ผู้ต้องขังติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 (H1N1) ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจระหว่างคนสู่คน ปัจจุบันไม่ถือเป็นโรคร้ายแรง และไม่ต้องแจ้งความแก่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ซึ่งไม่ใช่ชนิดเดียวกันกับไข้หวัดนก (H5N1) โดยเรือนจำได้วางแผนกำหนดมาตรการในการบำบัด รักษา และเฝ้าระวังโรคดังกล่าวในเบื้องต้น

และในวันเดียวกัน คณะแพทย์โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ประสานตามระบบ ติดต่อไปยังสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง สำนักป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เพื่อวางแผนการสอบสวนควบคุมโรค มีความเห็นว่า ให้ดำเนินการโดยด่วนที่สุด เพื่อเข้าคัดกรอง บำบัด ดูแลรักษาผู้ต้องขังจำนวนที่เหลือทั้งหมด 1,611 ราย ปรากฏว่า พบผู้ป่วยมีอาการเข้าข่ายต้องสงสัยตามอาการแสดงของโรค จำนวนทั้งสิ้น 379 ราย ประกอบด้วย ผู้ต้องขัง จำนวน 375 ราย และเจ้าหน้าที่ จำนวน 4 ราย ซึ่งทุกรายติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ที่พบได้ทั่วไป

สำหรับผู้ต้องขังป่วยทุกรายที่เข้าข่ายและน่าสงสัยที่จะได้รับเชื้อดังกล่าว ได้รับยารักษาไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล 2009 (H1N1) รวมถึงการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม โดยได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โรงพยาบาลยะลา และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ซึ่งทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วภายใน 1 สัปดาห์ กรณีที่มีผู้ต้องขังเสียชีวิต จำนวน 2 ราย ในระหว่างการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว พบว่า ผู้ต้องขังทั้ง 2 ราย เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว

โดยกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งการให้เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เฝ้าระวังการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ 2009 (H1N1) ต่อไป และให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด ดังนี้ 1. ให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกราย 2. จัดแอลกอฮอล์เจลประจำจุดให้ผู้ต้องขังใช้ โดยเฉพาะช่วงที่ยังต้องเฝ้าระวังการระบาดอย่างต่อเนื่อง 3. งดกิจกรรมที่มีการสัมผัสใกล้ชิด 4. จัดหาถุงแดงขยะติดเชื้อเพื่อทิ้งหน้ากากอนามัย และส่งเผาทำลายขยะที่โรงพยาบาล 5. ไม่ให้มีการย้ายผู้ต้องขังในช่วงเฝ้าระวังนี้

กรมราชทัณฑ์ ได้สั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถาน ทั่วประเทศ เฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ระบาด รวมถึงเฝ้าสังเกตผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัด โดยให้ศึกษาและถือปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดแล้ว จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว เพื่อให้สาธารณชนรับทราบข้อมูล รวมถึงเพื่อให้ญาติและบุคคลใกล้ชิดของผู้ต้องขังคลายความกังวลใจ และขอยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์และหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ ได้ดำเนินการทุกอย่างตามแนวทางที่ได้กำหนดไว้ ในการควบคุมป้องกันโรคระบาด
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น