นายสุทธิศักดิ์ ร่าหมาน ผู้บัญชาการเรือนจำนราธิวาส กล่าวถึงกรณีไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือ H1N1 ระบาดในเรือนจำนราธิวาส ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ต้องขังชายเสียชีวิต 2 คน และเจ้าหน้าที่เรือนจำ รวมทั้งนักโทษชายติดเชื้อกว่า 300 คนนั้นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความเข้าใจผิดที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยโรคดังกล่าวมีนักโทษติดเชื้อจริง ซึ่งทางเรือนจำได้มีการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว 8 คน อาทิ โรคเอดส์ วัณโรค และหืดหอบ แยกออกไปรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ต่อมาได้มีผู้ป่วย 2 ใน จำนวน 8 คน ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจริง ซึ่งป่วยจากโรคเอดส์และวัณโรค โดยที่ไม่ได้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดสายพันธุ์ H1N1 แต่อย่างใด ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากหลักฐานที่แพทย์ได้ออกให้ว่าเสียชีวิตจากโรคใด
นายสุทธิศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า หลังจากที่ได้ทราบผลตรวจจากเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคระบาดที่ 12 จ.สงขลา เราได้มีการคัดกรองผู้ติดเชื้อแยกออกไปกักขังต่างหาก เกรงจะมีการระบาดเพิ่ม โดยใช้วิธีการทานยาต้านเชื้อ ซึ่งปกติโรคดังกล่าวเชื้อมันจะหายไปเองภายใน 15 นาที ถ้าอยู่ในบรรยากาศที่ไม่แออัดและอับชื่น โดยมีทีมแพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เดินทางมาดูแลรักษาในการควบคุมโรคไม่ให้ระบาดภายในเรือนจำอย่างใกล้ชิด ซึ่งในช่วงที่แพร่ระบาดเราได้คัดกรองนักโทษ จำนวน 1,611 คน เจ้าหน้าที่ 38 คน พบผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะติดไข้หวัดได้ง่าย 379 คน โดยแยกเป็นผู้ต้องขัง 375 คน เจ้าหน้าที่เรือนจำ 4 คน ซึ่งล่าสุดจากการวางมาตรการในการรักษาและแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ H1N1 เริ่มคลี่คลายกลับสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังเหลือผู้ป่วยที่ส่งไปรักษาโรคประจำตัว เช่นโรคเอดส์และวัณโรค ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดนอนรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสอีก 2 คน ซึ่งไม่เกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่แต่อย่างใด จึงต้องการให้ประชาชนและญาติของผู้ต้องขัง อย่าวิตกกังวน โดยมีมาตการในการป้องกันและรักษาที่มีระบบ จนโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์H1N1 เริ่มคลี่คลายเกือบเข้าสู่สภาวะปกติในเรือนจำแล้ว
นายสุทธิศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า หลังจากที่ได้ทราบผลตรวจจากเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคระบาดที่ 12 จ.สงขลา เราได้มีการคัดกรองผู้ติดเชื้อแยกออกไปกักขังต่างหาก เกรงจะมีการระบาดเพิ่ม โดยใช้วิธีการทานยาต้านเชื้อ ซึ่งปกติโรคดังกล่าวเชื้อมันจะหายไปเองภายใน 15 นาที ถ้าอยู่ในบรรยากาศที่ไม่แออัดและอับชื่น โดยมีทีมแพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เดินทางมาดูแลรักษาในการควบคุมโรคไม่ให้ระบาดภายในเรือนจำอย่างใกล้ชิด ซึ่งในช่วงที่แพร่ระบาดเราได้คัดกรองนักโทษ จำนวน 1,611 คน เจ้าหน้าที่ 38 คน พบผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะติดไข้หวัดได้ง่าย 379 คน โดยแยกเป็นผู้ต้องขัง 375 คน เจ้าหน้าที่เรือนจำ 4 คน ซึ่งล่าสุดจากการวางมาตรการในการรักษาและแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ H1N1 เริ่มคลี่คลายกลับสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังเหลือผู้ป่วยที่ส่งไปรักษาโรคประจำตัว เช่นโรคเอดส์และวัณโรค ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดนอนรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสอีก 2 คน ซึ่งไม่เกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่แต่อย่างใด จึงต้องการให้ประชาชนและญาติของผู้ต้องขัง อย่าวิตกกังวน โดยมีมาตการในการป้องกันและรักษาที่มีระบบ จนโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์H1N1 เริ่มคลี่คลายเกือบเข้าสู่สภาวะปกติในเรือนจำแล้ว
