ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก “หมอเลี้ยบ” 1 ปี ปรับ 2 หมื่น แต่งตั้งประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในบอร์ด ธปท.ขัด พ.ร.บ.แบงก์ชาติ แต่ต่อมามีการยกเลิก สร้างความเสียหายไม่มาก ให้รอลงอาญา 1 ปี เจ้าตัวบอกยกภูเขาจากอกได้แล้ว 1 ลูก ยังเหลือคดีแปลงสัญญาสัมทานเอื้อชินแซทฯ ศาลนัดฟัง 25 ส.ค.นี้
วันนี้ (4 ส.ค.) เวลา 14.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ที่ อม.39/2558 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือหมอเลี้ยบ อายุ 59 ปี อดีต รมว.คลัง สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เป็นเหตุให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
จากกรณีเมื่อปี 2551 นพ.สุรพงษ์ ดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง รัฐบาลของนายสมัคร และได้มีการแต่งตั้ง ประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ หรือบอร์ดของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยมิชอบ ซึ่งมีการร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ภายหลังวินิจฉัยว่าการคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในบอร์ด ธปท.เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากคณะกรรมการคัดเลือกฯ บางคนมีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2485 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 มาตรา 28/1 และได้แจ้งให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาดำเนินการระงับการทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงแต่งตั้งประธานกรรมการ ธปท. และให้ รมว.คลังดำเนินการยกเลิกการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ธปท.
องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากพิจารณาแล้วเห็นว่า การแต่งตั้งนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ยายวิจิตร สุพินิจและนายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ต่างเป็นตัวแทนในสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปทำหน้าที่คณะกรรมการคัดเลือกคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ถือว่าบุคคลทั้งสามเป็นผู้มีผลประโยชน์หรือส่วนได้ส่วนเสียที่ขัดต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามความหมายของ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 มาตรา 28/1 วรรคสาม เมื่อจำเลยแจ่งตั้งบุคคลทั้งสามเป็นคณะกรรมการคัดเลือก จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำคุกเป็นเวลา 1 ปี และปรับ 2 หมื่นบาท พิเคราะห์พฤติการแห่งคดีแล้ว ภายหลังจากจำเลยมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว แม้คณะกรรมการคัดเลือกจะได้คัดเลือกกรรมการผู้ทรงวุฒิในธนาคารแห่งประเทศไทยก็ตาม ต่อมามีการยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยที่ได้รับการแต่งตั้งดังกล่าว จึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายมากนัก ประกอบกับไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้โทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา
ภายหลังฟังคำพิพากษา นพ.สุรพงษ์เปิดเผยว่า น้อมรับคำพิพากษาและขอบคุณในความเมตตาของศาล เรื่องนี้ถือเป็นกฎหมายใหมที่เพิ่งบังคับใช้ ศาลก็ได้ให้ความชัดเจนและเป็นบรรทัดฐานให้รัฐมนตรีดำเนินการตามคำวินิจฉัยต่อไป วันนี้ได้ยกภูเขาออกไปแล้ว 1 ลูก ส่วนคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบกรณีแปลงสัญญาสัมปทานเอื้อประโยชน์ชินแซทเทิลไลท์ ที่ศาลจะมีคำพิพากษา 25 ส.ค.นี้ เวลา 10.30 น.ก็เป็นธรรมดาของคนที่ถูกฟ้องจะมีความกังวล แต่ใครที่ถูกฟ้องขอให้มีสติ รวบข้อมูลสู้ให้เต็มที่ เชื่อว่าศาลพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม