MGR Online - ครอบครัวจากประจวบคีรีขันธ์ร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบ.ตร. หลังพลหทารตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แทงชาวพม่าดับ ด้านแม่ยันไม่ส่วนเกี่ยวข้อง วันเกิดเหตุอยู่ด้วยกัน เชื่อเป็นการจับแพะ
วันนี้ (1 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พลทหาร ฤทธิเกียรติ์ บัวเกลี้ยง ชาวอำเภอบางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมบิดาและมารดาได้เดินทางยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร รวม 2 ข้อหา จากกรณีชายชาวพม่าถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิต บริเวณสวนยาง ม.9 ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 โดยมี พ.ต.อ.อุดมชัย นิยมาภา นายตำรวจเวรอำนวยการ เป็นผู้รับมอบเอกสารหลักฐานดังกล่าว
มารดาของพลทหาร ฤทธิเกียรติ์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่เดินทางมาวันนี้เพื่อมาร้องขอความเป็นธรรมเพราะลูกชายของตนเองต้องตกเป็นผู้ต้องหาทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะวันเกิดเหตุลูกชายอยู่กับตนเองและเพื่อนบ้านที่มาช่วยพับเหรียญโปรยทานงานบวชของลูกชาย นอกจากนี้ ตนยังมีหลักฐานคือการแชตผ่านแอปพลิเคชันไลน์ระหว่างลูกชายกับญาติในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ รวมถึงผลการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับวัตถุพยานในที่เกิดเหตุก็ไม่ตรงกัน อาวุธมีดของกลางที่ใช้ก่อเหตุก็ยังไม่พบ แต่เจ้าหน้าที่กลับระบุว่ามีหลักฐานแน่นหนาและแจ้งข้อหาต่อลูกชายโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของทางญาติ ทั้งนี้ ในวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวลูกชายไปนั้นก็มีชาวบ้านกว่า 100 คนไปรวมตัวกันที่ สภ.บางสะพานน้อย เพื่อยืนยันว่าตำรวจจับผิดคน เป็นการจับแพะ ประกอบกับลูกชายอยู่ในช่วงเตรียมตัวอุปสมบทก่อนที่จะไปเป็นทหารเกณฑ์จึงไม่มีทางก่อเหตุได้อย่างแน่นอน
“ดิฉันและครอบครัวยังมั่นใจว่ามีขบวนการทำให้ลูกชายตกเป็นผู้ต้องหา เนื่องจากได้ยินว่าสาเหตุการเสียชีวิตของชายชาวเพม่าดังกล่าวเชื่อว่ามาจากเรื่องการขัดแย้งของการพนันชนไก่ มิหนำซ้ำหลังเกิดเหตุยังมีคนมาเกลี้ยกล่อมในทำนองว่าให้ยอมรับผิดไป เพราะยังไงก็สู้กับคนรวยไม่ได้ ดิฉันและครอบครัวก็ไม่รู้ว่ากำลังต่อสู้กับอะไร จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่ผ่านมาได้ไปร้องเรียนหลายหน่วยงานแล้ว มั่นใจว่าการมาร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบ.ตร.จะได้รับความเป็นธรรม ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ โดยลูกชายได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาล และลูกชายก็ยังเป็นไปทหารได้ตามปกติเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด” มารดาของพลทหาร ฤทธิเกียรติกล่าว
