ผู้จัดการรายวัน 360 - ตำรวจรวบตัวมือแทงแม่บ้านดับคาลิฟต์ตึกเอไอเอ ฝากขังต่อศาลครั้งแรก หลังผู้ต้องหารับสารภาพ อ้างทำไปเพราะหึงหวง ตร.คัดค้านการประกันตัวหวั่นหลบหนี และไม่มีญาติมาขอปล่อยตัวชั่วคราว จนท.นำตัวคุมขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
จากกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญในท้องที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อ น.ส.ศิลาณี ระดมสุข อายุ 35 ปี ชาว จ.ราชบุรี อาชีพแม่บ้านบริษัทเอกชน ถูกคนร้ายใช้มีดกระหน่ำแทงไม่ยั้งรวม 14 แผล จนเสียชีวิตอย่างสยดสยองที่บริเวณชั้น 27 อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ สำนักงานใหญ่ ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ โดยมีพยานเห็นว่าก่อนผู้ตายจบชีวิต มีปัญหาทะเลาะกับชายหนุ่มรายหนึ่ง ตัดผมทรงสกินเฮด เจาะหู จากนั้นชายคนดังกล่าวก็หายตัวไป เบื้องต้นตำรวจพุ่งเป้าไปที่เรื่องชู้สาว เพราะคนร้ายไม่สนทรัพย์สินผู้ตาย รวมทั้งน่าจะเป็นผู้ที่เคยเข้าออกอาคารที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดแห่งนี้มาก่อน
ความคืบหน้าล่าสุดวานนี้ (19 ก.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ห้วยขวาง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายทรงยศ แซ่กี้ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ จ.1406/2559 ลงวันที่ 19 ก.ค.59 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น นำอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต พร้อมของกลางเสื้อยืดสีดำแขนสั้น กางเกงยีนขายาวสีน้ำเงิน กระเป๋าเงินสีน้ำตาล มีดปลายแหลมยาว 12 นิ้ว โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 5 ม.6 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.30 น.ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดแทง น.ส.ศิลาณี ระดมสุข อายุ 35 ปี แม่บ้านพนักงานบริษัทเอกชน จำนวน 14 แผลจนเสียชีวิตก่อนหลบหนีไป โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าลิฟต์ชั้น 27 อาคารเอไอเอ ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุดังกล่าวคือนายทรงยศ จึงขออนุมัติต่อศาลอาญาออกหมายจับ กระทั่งสามารถจับกุมตัวนายทรงยศได้หลังหนีไปหลบซ่อนอยู่ที่บ้านเลขที่ 5 ม.6 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
** สารภาพสิ้นหึงหวง-อ้างชั่ววูบ
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายทรงยศให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุแทงผู้ตายจริง โดยเบื้องต้นให้การว่า ประกอบอาชีพเป็นพนักงานส่งอาหารตามที่จัดเลี้ยงให้พนักงานบริษัทเอกชนต่างๆ โดยคบหากับผู้ตายมาประมาณ 3 เดือน ในวันเกิดเหตุตั้งใจจะมาเจอผู้ตายโดยไม่ได้บอกไว้ก่อน โดยมีการพูดคุยจนเกิดมีปากเสียงกันเล็กน้อยเนื่องจากผู้ตายเริ่มตีตัวออกห่างเลยกลัวว่าจะมีคนอื่น ดังนั้นจึงลงมือก่อเหตุครั้งนี้ด้วยอารมณ์ชั่ววูบและโกรธแค้น อีกทั้งตนเองไม่รู้มาก่อนว่าผู้ตายมีสามีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน ยังต้องสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์มือ รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางจากกองพิสูจน์หลักฐานและอื่นๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหาผลัดแรกนี้ไว้ 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 ก.ค.ศกนี้ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ อัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายทรงยศ ผู้ต้องหาไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยไม่มีญาติมายื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวแต่อย่างใด.
จากกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญในท้องที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อ น.ส.ศิลาณี ระดมสุข อายุ 35 ปี ชาว จ.ราชบุรี อาชีพแม่บ้านบริษัทเอกชน ถูกคนร้ายใช้มีดกระหน่ำแทงไม่ยั้งรวม 14 แผล จนเสียชีวิตอย่างสยดสยองที่บริเวณชั้น 27 อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ สำนักงานใหญ่ ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ โดยมีพยานเห็นว่าก่อนผู้ตายจบชีวิต มีปัญหาทะเลาะกับชายหนุ่มรายหนึ่ง ตัดผมทรงสกินเฮด เจาะหู จากนั้นชายคนดังกล่าวก็หายตัวไป เบื้องต้นตำรวจพุ่งเป้าไปที่เรื่องชู้สาว เพราะคนร้ายไม่สนทรัพย์สินผู้ตาย รวมทั้งน่าจะเป็นผู้ที่เคยเข้าออกอาคารที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดแห่งนี้มาก่อน
ความคืบหน้าล่าสุดวานนี้ (19 ก.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ห้วยขวาง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายทรงยศ แซ่กี้ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ จ.1406/2559 ลงวันที่ 19 ก.ค.59 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น นำอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต พร้อมของกลางเสื้อยืดสีดำแขนสั้น กางเกงยีนขายาวสีน้ำเงิน กระเป๋าเงินสีน้ำตาล มีดปลายแหลมยาว 12 นิ้ว โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 5 ม.6 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.30 น.ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดแทง น.ส.ศิลาณี ระดมสุข อายุ 35 ปี แม่บ้านพนักงานบริษัทเอกชน จำนวน 14 แผลจนเสียชีวิตก่อนหลบหนีไป โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าลิฟต์ชั้น 27 อาคารเอไอเอ ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุดังกล่าวคือนายทรงยศ จึงขออนุมัติต่อศาลอาญาออกหมายจับ กระทั่งสามารถจับกุมตัวนายทรงยศได้หลังหนีไปหลบซ่อนอยู่ที่บ้านเลขที่ 5 ม.6 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
** สารภาพสิ้นหึงหวง-อ้างชั่ววูบ
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายทรงยศให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุแทงผู้ตายจริง โดยเบื้องต้นให้การว่า ประกอบอาชีพเป็นพนักงานส่งอาหารตามที่จัดเลี้ยงให้พนักงานบริษัทเอกชนต่างๆ โดยคบหากับผู้ตายมาประมาณ 3 เดือน ในวันเกิดเหตุตั้งใจจะมาเจอผู้ตายโดยไม่ได้บอกไว้ก่อน โดยมีการพูดคุยจนเกิดมีปากเสียงกันเล็กน้อยเนื่องจากผู้ตายเริ่มตีตัวออกห่างเลยกลัวว่าจะมีคนอื่น ดังนั้นจึงลงมือก่อเหตุครั้งนี้ด้วยอารมณ์ชั่ววูบและโกรธแค้น อีกทั้งตนเองไม่รู้มาก่อนว่าผู้ตายมีสามีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน ยังต้องสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์มือ รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางจากกองพิสูจน์หลักฐานและอื่นๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหาผลัดแรกนี้ไว้ 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 ก.ค.ศกนี้ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ อัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายทรงยศ ผู้ต้องหาไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยไม่มีญาติมายื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวแต่อย่างใด.