MGR Online - ทนายสงกานต์พาผู้เสียหายร้องกองปราบ หลังถูก “นางไก่” ปลอมลายเซ็นในสำนวนคดีลักทรัพย์ ระหว่างอยู่ในเรือนจำ พร้อมเตรียมแจ้งดำเนินคดีค้ามนุษย์หลังเด็กชาวเขาให้ปากคำ เคยถูกนางไก่ชวนไปทำงานต่างประเทศ แฉอีกเศรษฐินีเจ้าของสัมปทานเดินรถภาคอีสานตาย เพราะถูกรัดคอปี 47 - 48 ส่อเชื่อมโยงคดีนางไก่
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.00 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ พร้อม น.ส.ประภาวรรณ หรือ น้องก้อย ใจกล้า นายชูเกียรติ ใจกล้า นางประภาพร ทองเฟื่อง บิดามารดาน้องก้อย น.ส.วณิชยา หรือ มีน บุ้นสุนเฮง นางสุกัลยา ศิริม่วง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีที่ นางสุกัลยา ถูกปลอมลายเซ็นในสำนวนการสอบสวน เมื่อครั้ง นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ นางไก่ แจ้งความในข้อหา “ลักทรัพย์นายจ้าง” ท้องที่ สน.ประชาชื่น เมื่อเดือน ธ.ค. 58
นางสุกัลยา เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการประกันตัวชั่วคราวออกจากเรือนจำ ก็บอกกับนายสงกานต์ ว่าระหว่างอยู่ในเรือนจำนั้น มีพนักงานสอบสวนเข้าไปในเรือนจ ำเพื่อให้เซ็นชื่อในสำนวน 2 ครั้ง แต่ตนปฏิเสธ นายสงกานต์ จึงไปขอศาลคัดลอกสำนวนในคดีดังกล่าวมาตรวจสอบ เมื่อตรวจดูก็พบว่าลายเซ็นหลายส่วนในสำนวนคดีดังกล่าวไม่ใช่ลายเซ็นของตน มีเพียงแค่ 2 แผ่นเท่านั้น ที่เป็นลายเซ็นตน คือ แผ่นที่เขียนรับสารภาพและลงลายเซ็นที่ สน.ประชาชื่น เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันตนไม่เคยเห็นสำนวนดังกล่าวมาก่อน ไม่ว่าจะในชั้นสอบปากคำ หรือชั้นศาล
นายสงกานต์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนในขณะนั้น คือ ร.ต.ท.ปกป้อง ฟองเลา รอง สว. (สอบสวน) สน.ประชาชื่น ซึ่งเมื่อ นางสุกัลยา ยืนยันว่า ลายเซ็นในสำนวนไม่ใช่ของนางสุกัลยา ก็ต้องตรวจสอบว่าที่มีลายเซ็นเหล่านั้นปรากฏได้อย่างไร ซึ่งวันนี้ตนจึงนำตัว นางสุกัลยา มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 ป. เพื่อให้ตรวจสอบที่มาลายเซ็น พร้อมทั้งจะเซ็นชื่อลงในกระดาษเอ 4 จำนวน 15 แผ่นต่อหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมขอให้นำส่งกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้กรณีดังกล่าวเป็นกรณีตัวอย่าง เนื่องจากแสดงให้เห็นว่ากระทบต่อความยุติธรรม ทั้งนี้ วิธีการต่อสู้ในคดีนั้น ตนจะยื่นร้องต่อศาลให้ศาลส่งเอกสารสำนวนดังกล่าวตรวจสอบ แต่ขณะนี้คดีของนางสุกัลยาถูกนำมารวมไว้ที่กองปราบ จึงมีความจำเป็นต้องนำมาพิสูจน์ทราบเรื่องลายมือชื่อก่อน ก่อนที่จะแถลงต่อศาลเพื่อร้องขอสำนวนตัวจริงต่อไป
นายสงกานต์ กล่าวอีกว่า ในส่วนการดำเนินคดีกับนางไก่นั้น วันนี้ตนได้นำข้อมูลจากพยานบุคคล ที่ระบุได้ว่า นางไก่ และพวกร่วมกันค้ามนุษย์ โดยเป็นคำให้การจากกรณีเด็กชาวเขาจำนวน 3 คน ที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ที่ระบุว่า ถูกนางไก่ชักชวนไปทำงาน ก่อนจะพยายามชวนไปต่างประเทศ ซึ่งหลักฐานดังกล่าวปรากฏให้เห็นชัดว่านอกจากนางไก่ แล้วยังมีบุคคลเป็นชาย 2 ราย โดย 1 ในนั้นเป็นนักกฎหมาย และหญิงอีก 1 ราย ซึ่งเป็นนักกฎหมายเช่นกัน ที่มีพฤติการณ์ค้ามนุษย์ และขู่เข็ญหากไม่ยินยอมทำตามที่นางไก่ต้องการ พร้อมทั้งมีการไปรับ - ส่งเด็กชาวเขา ทั้งสาม จาก จ.แม่ฮ่องสอน ไปยังสถานที่ต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ตนมีชื่อและระบุตัวบุคคลของทั้ง 3 รายแล้ว แต่ขอไม่เปิดเผย เนื่องจากเกรงจะกระทบรูปคดี นอกจากนี้ ตนยังมีเตรียมจะส่งข้อมูลอดีตลูกจ้างชาวลาวของนางไก่ ที่เคยถูกนางไก่แจ้งความในข้อหา “ลักทรัพย์นายจ้าง” ในท้องที่ สน.ประชาชื่น เมื่อปี 2554 - 2555 ที่ทางตำรวจกำลังหาตัวอยู่ โดยขณะนี้ทราบว่าอยู่ที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว และมีลูกอายุ 1 ขวบเศษ โดยที่หญิงสาวชาวลาวคนดังกล่าวไม่กล้าเดินทางมาให้ข้อมูลนั้น เนื่องจากมีหมายจับอยู่ ซึ่งทางตนจะร้องขอให้เพิกถอนหมายจับหญิงคนดังกล่าวต่อไป
นายสงกานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของคดี นางฉวีวรรณ ตั้งวิริยะกุล เศรษฐินี จ.อุดรธานี ที่หายสาบสูญไป นั้น ตนได้นำข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ นายปิติ ตั้งวิริยะกุล อดีตสามี นางฉวีวรรณ และ นางไก่ ว่า ไม่ได้นับถือกันเป็นเพียง พ่อ - ลูก แต่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่น โดยหลักฐานเป็นการให้ข้อมูลจากพยานบุคคลที่อาศัยอยู่ที่คอนโดบ้านประชานิเวศน์ ถ.เทศบาลนิมิตเหนือ ประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ที่ระบุว่า พบเห็น นายปิติ แวะเวียนมาหานางไก่ที่คอนโดบ่อยครั้ง รวมทั้งยังทะเลาะเบาะแว้งกันในเรื่องที่ยืนยันได้ว่าคนที่นับถือเป็นพ่อ - ลูก จะไม่ทะเลาะกันเรื่องอย่างนี้ นอกจากนี้ ตนยังมีข้อมูลว่า การเสียชีวิตของนางฉวีวรรณ พบพิรุธในหลายอย่าง ซึ่งมีการพาดพิงไปถึงบุคคลอื่นเป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย ที่เชื่อได้ว่าร่วมกับนางไก่ และมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนางฉวีวรรณอีกด้วย
นายสงกานต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีพลเมืองดีให้ข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐินี เจ้าของสัมปทานเส้นทางเดินรถสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีลักษณะการเสียชีวิตคล้ายถูกรัดคอ เมื่อปี 2547 - 2548 ผ่านเฟซบุ๊ก “ทค.สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์” โดยเบื้องต้นมีข้อมูลที่เชื่อว่า น่าจะเชี่อมโยงกับนางไก่เช่นกัน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ ตนได้ให้ข้อมูลดังกล่าวกับ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ไปแล้ว คาดว่า ไม่เกินวันพฤหัสที่ 21 กรกฎาคม นี้ น่าจะมีความชัดเจน อย่างไรก็ตาม ตำรวจอยู่ระหว่างสืบหาข้อมูลว่าสัมปทานเส้นทางเดินรถสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นางไก่เคยระบุว่าเป็นเจ้าของนั้น จะเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเศรษฐินีคนดังกล่าวหรือไม่