MGR Online - รมว.ยุติธรรม ประชุมร่วมคณะกรรมการประสานงานแก้ปัญหาเด็กแว้น และควบคุมสถานบันเทิง รับใช้มาตรา 44 เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ ย้ำ 3 สถาบัน ครอบครัว สถานศึกษา สื่อ ต้องช่วยกันแก้ไข
วันนี้ (29 มิ.ย.)เวลา 14.00 น. กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการการประสานกำกับติดตามผลดำเนินงานการแก้ปัญหาเด็กแว้น และการควบคุมสถานบริการ โดยมีตัวแทนจากหลายหน่วยงานเข้าร่วมประชุม อาทิ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมอาชีวศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง ฯลฯ เพื่อร่วมประชุมวางแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวก่อนการประชุมว่า การออกมาตรา 44 เพื่อการแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียนตีกันนั้นยอมรับว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเนื่องจากปัญหาดังกล่าวสะสมมานานเป็น 10 ปีแล้ว ไม่ใช่แก้ปัญหาเพียงแค่ 1-2 ปีจะแล้วเสร็จ เนื่องจากปัญหาเหล่านี้เกิดจาก 3 สถาบันหลัก ประกอบด้วย 1. ครอบครัว ซึ่งเป็นพฤติกรรมการเรียนรู้จากคนในครอบครัวที่มีปัญหา 2. สถานศึกษา เป็นพฤติกรรมก้าวร้าวจากเพื่อนอาจเกิดตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา และ 3. สื่อ เด็กเกิดจากการเลียนแบบพฤติกรรมก้าวร้าวผ่านสื่อต่างๆ ดังนั้นต้องยอมรับว่า 3 สิ่งนี้คือต้นเหตุที่นำไปสู่การทะเลาะวิวาทและปัญหาเด็กนักเรียนตีกัน หากจะให้ควบคุมทั้งหมดคงทำไม่ได้
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า สื่อทำไมไม่ช่วยกันแก้ปัญหา ทั้งๆที่สื่อเป็นคนทำให้เกิดปัญหา ดังนั้น คำสั่ง คสช.จึงเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นเท่านั้น ทุกคนต้องช่วยกันและขอความร่วมมือจากสื่อด้วย ต้องมีการปรับทัศนคติการรับรู้และการแก้ปัญหาในระยะยาว ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องแก้ไข ตนเข้ามาต้องแก้ไขปัญหาหลายเรื่องก่อนจะเป็นรัฐบาล เรื่องนี้ต้องมีการสร้างองค์ความรู้จากโครงการโตไปไม่โกง ที่รัฐบาลทำและสอนเด็กทุกโรงเรียนในขณะนี้
“ส่วนการแก้ปัญหาร้านเหล้าใกล้สถานศึกษา ยังแก้ปัญหาไม่หมด แต่ก็ดีขึ้นในระดับหนึ่งหลังจากมีการปรับพื้นที่โซนนิ่งบริเวณใกล้สถานศึกษา ถือเป็นปัญหาปลายเหตุเช่นกัน สำหรับปัญหาเรื่องเด็กแว้นที่แก้ไขมาตั้งแต่ปี 2558 ถือว่าปัญหาดังกล่าวดีขึ้นในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ ต้องนำหลักการไปแก้ไขปัญหาต่อไป” รมว.ยุติธรรมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมมีการรายงานผลการดำเนินการการจับกุมเด็กแว้นทั่วประเทศ ดังนี้ โดยข้อมูลถึงวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมาจับกุมผู้กระทำผิด 1,131 ราย ยึดจักรยานยนต์ 789 คัน ทำทัณฑ์บนผู้ปกครองเด็กที่กระทำผิด 203 ราย ทำทัณฑ์บนผู้ปกครองเด็กที่กระทำผิดซ้ำ 19 ราย และดำเนินคดีผู้ผลิตดัดแปลงชิ้นส่วนประกอบจักรยานยนต์ 199 ราย
นอกจากนี้ สถิติการรวมตัวของเด็กแว้นถนนสายหลักในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปกติมีประมาณ 10 จุด ปัจจุบันเหลือเพียง 2 จุด คือ ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนกาญจนาภิเษก ส่วนถนนสายรองมีประปราย มีการลดลงประมาณ 22% ส่วนการดำเนินคดีร้านเหล้าและสถานบันเทิงที่ละเมิดคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ปัจจุบันในเขตกรุงเทพฯ มีสั่งปิด 5 ปี ไป 6 ร้าน และอยู่ระหว่างรอคำสั่งปิด 8 ร้าน ส่วนในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศสั่งปิด 5 ปี ไป 166 ร้าน และยู่ระหว่างรอคำสั่งปิด 47 ร้าน ขณะการออกใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. 2559 กรมสรรพสามิตออกใบอนุญาตให้ 560,560 ราย ลดลง 25,131 ราย ลดลงจากเมื่อปี 2558 ที่กรมสรรพสามิตออกใบอนุญาตให้ 585,691 ราย นอกจากนี้ ได้เพิกถอนใบอนุญาตขายสุราของสถานบันเทิง 195 ราย