xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฎีกายกฟ้อง “ยุทธพงศ์” หมิ่น “เกียรติ” แทรกแซงคดีฟิลลิปมอร์ริสเลี่ยงภาษี ชี้ทำหน้าที่โดยสุจริต(มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” อดีต รมช.เกษตรฯ เพื่อไทย หมิ่น “เกียรติ สิทธีอมร” แทรกแซงคดี บ.ฟิลลิป มอร์ริส เพื่อเลี่ยงภาษี 68,000 ล้านบาท ชี้เป็นการทำหน้าที่โดยสุจริต ติชมอย่างเป็นธรรม



วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 914 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.1261/2554 ที่นายเกียรติ สิทธีอมร คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ และประธานผู้แทนการค้าไทย เป็นโจทก์ฟ้องนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 กรณีวันที่ 6 มี.ค. 2554 จำเลยในฐานะหัวหน้าทีมอภิปราย แถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทยถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และพาดพิงมาถึงโจทก์ทำนองว่าโจทก์เป็นบุคคลที่รับวิ่งเต้น แทรกแซงคดีบริษัท ฟิลลิป มอร์ริสฯ แสดงราคานำเข้าบุหรี่จากต่างประเทศต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี 68,000 ล้านบาท โดยโจทก์อาจได้ผลประโยชน์จากต่างประเทศ ซึ่งล้วนเป็นเท็จทำให้โจทก์เสียหาย ขณะที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำคุก 3 เดือน และปรับ 40,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมทั้งให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาย่อใน หนังสือพิมพ์รายวัน 8 ฉบับเป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน ต่อมาจำเลยยื่นฎีกาต่อสู้คดี

โดยนายยุทธพงศ์ จำเลยเดินทางมาศาล ขณะที่นายเกียรติ โจทก์ก็มาศาลเพื่อร่วมฟังคำพิพากษาด้วย

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่าคดีนี้จำเลยเบิกความว่า จากการตรวจสอบนำเข้าบุหรี่ ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2541-2550 ของบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส พบว่ามีแสดงรายการนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศในราคาต่ำกว่าบริษัทอื่นอย่างมาก ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษี 68,000 ล้านบาท จำเลยมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เมื่อจำเลยตรวจสอบรายการการประชุมที่โจทก์เรียกตัวแทนจากอัยการ, ดีเอสไอ, กรมสรรพสามิต และกรมสรรพากร เข้าประชุมที่มีการกล่าวถึงการดำเนินคดีให้เป็นผลดีต่อบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส และมีการตำหนิดีเอสไอในที่ประชุมว่าไม่ควรสั่งฟ้อง การแสดงความเห็นของโจทก์ตามความรู้สึกของคนทั่วไปย่อมส่งผลไม่มากก็น้อยต่อการทำหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี กระทั่งอัยการมีความเห็นสั่งมาฟ้องในเบื้องต้น ก่อนที่อัยการสูงสุดจะมีคำสั่งฟ้องต่อมา ตามความเห็นแย้งของดีเอสไอ จำเลยจึงย่อมมีเหตุเชื่อได้ว่าโจทก์กระทำการมีความเคลือบแคลงน่าสงสัยว่าจะแทรกแซงการทำงานด้วยคนของรัฐบาลหรือไม่ ดังนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยสุจริตปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ติชมด้วยความเป็นธรรม จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษายกฟ้อง

ด้านนายเกียรติ โจทก์กล่าวว่า เมื่อวันนี้ศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้อง ถือว่าคดีเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ขณะที่นายยุทธพงศ์กล่าวว่า คดีนี้ศาลพิพากษายกฟ้อง ยืนยันว่าตนทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ เพื่อประโยชน์บ้านเมืองและประชาน โดยขณะนี้คดีของฟิลลิป มอร์ริสฯ ก็อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล



กำลังโหลดความคิดเห็น