MGR Online - คณะผู้บริหาร สหกรณ์ฯ คลองจั่น เข้าพบ ดีเอสไอ.หลังเจอเช็คเพิ่มอีก 7 ฉบับ จ่ายเครือข่ายวัดพระธรรมกาย มูลค่า 400 กว่าล้านบาท เตรียมตรวจสอบฟ้องทางแพ่งต่อไป
วันนี้ (21 มิ.ย.) เวลา 11.15 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายประกิต พิลังกาสา ประธานกรรมการบริหารลูกหนี้ และผู้ทำแผนฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น พร้อมคณะผู้บริหารสหกรณ์ฯ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร ดีเอสไอ เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดียักยอกเงินสหกรณ์ฯ รวมทั้ง พบหลักฐานใหม่ว่าเครือข่ายวัดพระธรรมกายยักยอกทรัพย์เงินสหกรณ์ฯเพิ่มเติมอีกกว่า 400 ล้านบาท โดยใช้เวลาร่วม 1 ชั่วโมงครึ่ง
นายประกิต กล่าวว่า สหกรณ์ฯ คลองจั่น ได้ฟ้องและทำสัญญายอมความกันไว้ประมาณ 20 ฉบับ แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรกประมาณ 10 ฉบับ จำนวนเงิน 680 ล้านบาทซึ่งสหกรณ์ฯ คลองจั่นได้มาครบถ้วนแล้ว เมื่อปลายปี 2558 ส่วนชุดสองอีก 10 ฉบับ จำนวน 370 ล้านบาทซึ่งดำเนินการในช่วงต้นปี 2559 จะจ่ายเป็นเช็คประมาณ 18 งวดๆ ละประมาณ 20 กว่าล้านบาทและเพิ่งเอาเช็คไปขึ้นเงินได้ 1 ฉบับเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เหลืออีก 350 ล้านบาท รวมทั้งหมดเป็นเงินประมาณ 1,050 ล้านบาท
“โดยวันนี้สหกรณ์ฯ คลองจั่น เดินทางมาขอรับทราบรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจาก นายศุภชัย เอาเงินทั้งหมดออกจากสหกรณ์ฯ คลองจั่น ไปให้ทางวัดพระธรรมกายประมาณ 1,458 ล้านบาท จึงมาขอรับทราบว่าเงินจำนวนที่เพิ่มขึ้นคือเท่าใด ซึ่งมีประมาณ 7 ฉบับ เป็นเงิน 400 กว่าล้านบาท เพื่อเอาไปพิจารณาดำเนินการต่อไป”
นายประกิต กล่าวอีกว่า เงินจำนวน 1,458 ล้านบาท สหกรณ์ฯ คลองจั่น ได้ฟ้องและรับเงินคืนมาแล้ว ประมาณ 1,050 กว่าล้านบาท ซึ่งไม่ได้คืนมาจากวัดพระธรรมกายหรือพระสงฆ์อย่างที่ทราบแต่ได้มาจากกองทุนจากลูกศิษย์วัดพระธรรมกายร่วมกันบริจาค ส่วนที่เหลือเป็นข้อมูลใหม่ที่ได้มารับทราบวันนี้ซึ่งยังมีอีก 7 ฉบับ เป็นเงิน 400 กว่าล้านบาท เพื่อดูรายละเอียดของเอกสารเหล่านี้อีกครั้งว่าดำเนินการอย่างไรต่อไป เนื่องจากว่าวันนี้เองสหกรณ์ฯ คลองจั่น ยังไม่เห็นตัวเช็คดังกล่าว
นายประกิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา คณะบริหารฟื้นฟูแผนสหกรณ์ฯ คลองจั่น ได้เตรียมจ่ายเงินคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯ คลองจั่น หลังไม่ได้รับเงินมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ จะชำระเงินให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯ คลองจั่น เป็นครั้งแรกให้สมาชิกประมาณ 3.7 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ฝาก โดยสมาชิกได้รับในสัดส่วนเท่ากันทุกคน ซึ่งวงเงินประมาณ 600 กว่าล้านบาทแต่ไม่สามารถจ่ายได้ทุกเดือน ทั้งนี้ ตามแผนสหกรณ์ฯ คลองจั่น กำหนดจ่ายปีละ 2 ครั้ง
พ.ต.ท.ปกรณ์ เปิดเผยว่า สำหรับรายละเอียดเช็คเริ่มต้นคดีหลังจากผู้เสียหายเดินทางมาร้องทุกข์ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าเบื้องต้นมีเงินสหกรณ์สั่งจ่ายไปที่วัดพระธรรมกายและพระสงฆ์ ทั้งหมด 27 ฉบับ จำนวนเงิน 1,458 ล้านบาท ซึ่งมีอ้อมมาทาง น.ส.ศศิธร โชคประสิทธิ์ ที่หลบหนีไปต่างประเทศ อีกประมาณ 33 ล้านบาท สำหรับข้อมูลเหล่านี้จะได้ส่งมอบให้สหกรณ์ฯ เพื่อดำเนินการต่อไป
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า ทางคณะผู้บริหารสหกรณ์ฯ คลองจั่น ชุดใหม่ นำโดย นายประกิต เข้ามาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งมี ตน และ พ.ต.ท.ปกรณ์ หารือเกี่ยวกับแนวทางคดีที่มีสมาชิกสหกรณ์เป็นผู้เสียหาย อีกประเด็นคือเรื่องของเช็คที่ ดีเอสไอ พบเพิ่มเติมจากทางที่สหกรณ์ได้ฟ้องไปก่อนหน้านี้ โดยเป็นเช็คในกลุ่มวัดพระธรรมกายมีจำนวน 27 ฉบับ จำนวน 1,458 ล้านบาท ส่วน 400 กว่าล้านบาทที่พบเป็นข้อมูลใหม่นั้น ทางสหกรณ์ฯ คลองจั่น จะดำเนินการฟ้องทางแพ่งต่อไป
“การขอหมายค้นเข้าวัดพระธรรมกายจะเกิดขึ้นอีกครั้งนั้นต้องปรึกษากับทาง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ แต่ว่าหมายจับมีอายุความ 15 ปี และเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดีเอสไอ.ที่ต้องติดตามจับกุมตัว พระธัมมชโย ต่อไป ส่วนกรณี เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล ที่ออกมาให้ลูกศิษย์วัดปกป้อง พระธัมมชโย ทราบว่า อธิบดีดีเอสไอ. สั่งให้กองกฎหมาย ดีเอสไอ ดูรายละเอียดของคลิปว่าเป็นความผิดอาญาฐานใดหรือไม่” รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าว