MGR Online - รอง หน.ฝ่ายจัดหน้าข่าวหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ร้อง บช.น.ตามคดีลูกสาวตกตึกดับปริศนา หลังผ่านมาร่วม 1 ปี คดีไม่คืบ จดบัดนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ด้าน ตร.คาดใช้เวลา 20 วันในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
วันนี้ (20 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายเควิน โจนส์ (Kevin Jones) อายุ 44 ปี ชาวอังกฤษ รองหัวหน้าฝ่ายจัดหน้าข่าว หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ (Deputy Chief Sub-Editor) นางเมทินี โจนส์ อายุ 56 ปี สองสามีภรรยา พร้อมด้วยนางจุฑาทิตย์ ไนเจิล บราวลี ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.โชคชัย จริยสน รอง สว.งานรับเรื่องราวร้องทุกข์ บช.น. พร้อมยื่นหนังสือร้องเรียนให้ช่วยตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของ ด.ญ.อริสา มาเรีย โจนส์ อายุ 14 ปี บุตรสาวที่เสียชีวิตจากการพลัดตกจากชั้น 40 คอนโดมิเนียม เดอะเมท เลขที่ 123 ถ.สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2558 แต่จนถึงขณะนี้คดีกลับยังไม่มีความคืบหน้า
นางเมทินีกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ ด.ญ.อริสา เดินทางกลับจากประเทศเดนมาร์กมาเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศไทยในช่วงปิดภาคเรียน โดยก่อนเกิดเหตุบุตรสาวตนขอไปนอนค้างบ้านเพื่อนที่คอนโดมิเนียมดังกล่าว กระทั่งช่วงเช้าของวันต่อมาทราบว่าลูกสาวของตนได้พลัดตกลงมาจากคอนโดฯ จนเสียชีวิต หลังทราบข่าวได้ไปที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบถามทางฝ่ายของผู้ปกครองเพื่อนของบุตรสาวถึงสาเหตุการเสียชีวิต แต่กลับไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ทั้งที่ในคืนเกิดเหตุมีคนอยู่ในห้องดังกล่าวหลายคน ทั้งผู้ปกครอง, พี่ชาย, เพื่อนบุตรสาว และแม่บ้านอีก 2 คน แต่ทั้งหมดกลับอ้างว่าขณะที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 01.30 น. ทุกคนในบ้านนอนหลับหมดมาทราบเรื่องอีกทีก็ตอน ด.ญ.อริสาได้เสียชีวิตแล้ว แต่ผู้ปกครองได้โทร.มาแจ้งตนเวลาประมาณ 09.00 น.
นางเมทินีกล่าวอีกว่า ผลการพิสูจน์ศพจากทาง รพ.นิติเวช ได้ระบุว่าพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเป็น ปริมาณมากถึง 231 มิลลิกรัม ทั้งยังพบร่องรอยบาดแผลถลอกที่บริเวณแขนทั้งสองข้างคล้ายกับถูกครูดอย่างแรง จึงทำให้ตนและสามียังคงติดใจเคลือบแคลงสงสัยประเด็นการเกิดเหตุดังกล่าว จึงได้สอบถามความคืบหน้าของคดีไปยัง ร.ต.ท.บุญลือ ทางตรง พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าของคดี กลับพบว่ายังไม่มีความคืบหน้าใดๆ กระทั่งเมื่อราวเดือนมกราคมที่ผ่านมาทราบว่าคดีถูกโอนไปยัง ร.ต.ท.นพดล จำปาแขก พนักงานสอบสวน สน.เดียวกัน เนื่องจาก ร.ต.ท.บุญลือป่วย แต่เวลาผ่านไปไม่มีความคืบหน้าและเรื่องที่เกิดก็ถูกโอนกลับไปที่ ร.ต.ท.บุญลืออีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการเชิญตัวครอบครัวของเพื่อนบุตรสาวตนที่อยู่ในเหตุการณ์มาทำการสอบปากคำทั้งที่เวลาผ่านล่วงเลยมานานเกือบ 1 ปี ทำให้จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถทราบลูกสาวตนเสียชีวิตจากสาเหตุใด
เบื้องต้น ร.ต.ท.โชคชัย จริยสน รอง สว.งานรับเรื่องราวร้องทุกข์ บช.น. ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 20 วันในการดำเนินการ ทั้งนี้จะมีการประสานไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าของคดีเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงรวมถึงมีการนัดสอบปากคำผู้ร้องเรียนตามขั้นตอนต่อไป