สตม. บุกรวบ “แก๊งสกิมเมอร์” 2 พี่น้องชาวเบลารุส ถึงที่พักย่านถนนพระอาทิตย์ เผย ขโมยข้อมูลบัตรเอทีเอ็มจากหลายประเทศในยุโรป โดยใช้ไทยเป็นฐานที่ตั้งผลิตบัตรปลอม ก่อนจะตระเวนกดเงินทั่วประเทศ มีธนาคารในไทยตกเป็นเหยื่อเพียบ เสียหายกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (15 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัชวาลย์ วชิรปาณีกุล รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ ผกก.1 บก.สส.สตม. พ.ต.ท.บันดล วงศ์ระรื่น รอง ผกก.1 บก.สส.สตม พ.ต.ท.เชฎฐพร วรผลึก รอง ผกก.1 บก.สส.สตม. พ.ต.ท.ธวัชชัย นรินรัตน์ สว.กก.1 บก.สส.สตม. ร.ต.ท.กิตติพันธ์ เอืมจรูญ รอง สว.กก.1 บก.สส.สตม. และ ด.ต.ศักดิ์ศรี ท้าวหลาน ผบ.หมู่ กก.1 บก.สส.สตม. และทีมฝ่ายสืบสวน ร่วมกันนำกำลังเข้าจับกุม Mr.Bekasau Vadzim อายุ 30 ปี และ Mr.Bekasau Aliaksandr อายุ 23 ปี ทั้งคู่เป็นคนสัญชาติเบลารุส ที่ห้องพักเลขที่ 217 บริเวณชั้น 2 โรงแรมแฮปปีโอ ซอยชนะสงคราม 46 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (แก๊งสกิมเมอร์) ที่ขโมยข้อมูลบัตรเอทีเอ็มจากนานาประเทศในแถบทวีปยุโรป และใช้ประเทศไทยเป็นฐานที่ตั้งในการผลิตบัตรปลอม อีกทั้งตระเวนกดเงินทั่วประเทศ และมีธนาคารในประเทศไทยตกเป็นเหยื่อหลายราย ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีแก๊งอาชญากรรมทางการเงินข้ามชาติเดินทางเข้ามาภายในประเทศไทยแบบนักท่องเที่ยว ก่อนใช้เป็นฐานที่ตั้งในการผลิตบัตรปลอม โดยขโมยข้อมูลบัตรเอทีเอ็มจากนานาประเทศในแถบทวีปยุโรป จนกระทั่งประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สตม. ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมทั้งตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด จนพบตัวผู้ต้องหาทราบชื่อต่อมาคือ Mr.Bekasau Aliaksandr อายุ 23 ปี ได้ขณะกำลังกดเงินที่ตู้กดเงินสดของธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งอยู่ภายในซอยสามเสน 4 แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กทม. ก่อนติดตามเฝ้าพฤติกรรมจนทราบว่า แอบพักอาศัยอยู่บริเวณถนนพระอาทิตย์ ทางเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจสอบ ก่อนพบผู้ต้องหาได้ทั้งหมดทราบภายหลังว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน พร้อมของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด ประกอบด้วย บัตรเอทีเอ็มปลอมสีแดงเป็นรูปต้นมะพร้าว มีแถบแม่เหล็กด้านหลัง จำนวน 443 ใบ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก จำนวน 1 เครื่อง อุปกรณ์ในการถ่ายข้อมูล (Skimmer) สีเทา จำนวน 1 เครื่อง เครื่องอ่านบัตรเครดิต สีขาว จำนวน 1 เครื่อง และเงินสด 6,000 บาท ซึ่งของกลางทั้งหมดถูกซุกซ่อนอยู่ในกระป๋าเดินทาง
พล.ต.ท.ณัฐธร จากการสอบสวนทราบว่า ขบวนการดังกล่าวจะมีแหล่งสมาชิกร่วมกันตระเวนขโมยฐานข้อมูลจากบัตรเอทีเอ็มซึ่งตั้งอยู่ที่ต่างประเทศ โซนทวีปยุโรป ก่อนส่งข้อมูลมาที่ฐานผลิตในประเทศไทย ซึ่งแก๊งดังกล่าวมักจะเปลี่ยนตระเวนที่พักไปเรื่อย ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ทั้งนี้ ขบวนการดังกล่าวจะนำเครื่องสกิมเมอร์ไปแอบไว้ที่ร้านค้า เมื่อลูกค้าทำการรูดซื้อสินค้าจากทางพนักงานจะตั้งโปรแกรมให้รูดได้ จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นการชำระเงิน และครั้งที่ 2 เป็นการขโมยข้อมูลของบัตรนั้น ๆ โดยฐานข้อมูลจะถูกส่งผ่านทางอินเทอร์เน็ตมาที่ฐานผลิตบัตรปลอมภายในประเทศไทย และมีสมาชิกบางส่วนที่ร่วมขบวนการตระเวนนำเครื่องสกิมเมอร์ไปติดตั้งไว้ที่ตู้เอทีเอ็ม โดยจะนำข้อมูลจากบัตรต่าง ๆ มาผลิตเป็นบัตรปลอม และนำไปกดเงินสด รวมทั้งรูดซื้อสินค้า จากนั้น Mr.Bekasau Aliaksandr จะรับหน้าที่เป็นผู้ออกตระเวนกดเงินสดกระทั่งมาถูกทางเจ้าหน้าที่จับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้นทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สตม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป