MGR Online - อุทธรณ์ยืนอดีต ผจก.ไทยพาณิชย์ สาขาพระราม 4 ชดใช้เงินคืนสาวทุพพลภาพ 20 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันฟ้องปี 55 หลังถูกฉกเงินจากบัญชี 100 ล้านบาท
ที่ห้องพิจารณา 815 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (26 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีผู้บริโภค หมายเลขดำ ผบ.3001/2555 ที่ น.ส.เอื้อมบุญ จันทร์สมา อายุ 63 ปี บุคคลทุพพลภาพ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1 (ซึ่งโจทก์ถอนฟ้องคดีแล้ว) และนายถนอมศักดิ์ ชลิตังกูล อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพระราม 4 จำเลยที่ 2 เรื่องผิดสัญญาเงินฝาก และละเมิด เรียกค่าเสียหายเป็นเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย รวม 127,063,269 บาท
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อปี 2557 ให้นายถนอมศักดิ์ อดีต ผจก.ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาพระราม 4 จำเลยที่ 2 ชดใช้เงินคืน น.ส.เอื้อมบุญ โจทก์ จำนวน 20 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องที่ 28 ก.ย. 2555 จนกว่าจะชำระเสร็จ และให้จำเลยจ่ายค่าฤชาธรรมเนียมศาลแทนโจทก์ พร้อมค่าทนายความแทนโจทก์ด้วย 50,000 บาท
ต่อมาคู่ความยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษา ให้นายถนอมศักดิ์ จำเลยที่ 2 ชดใช้เงินคืน 20 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง 28 ก.ย. 2555 จนกว่าจะชำระเสร็จ และให้จ่ายค่าทนายความแทนโจทก์ 50,000 บาท ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษายืน
ภายหลังนายวันชัย ศรีสันติธรรม ทนายความของ น.ส.เอื้อมบุญ โจทก์ กล่าวว่า ยอดเงินที่ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้คืนแก่โจทก์นั้นก็เป็นจำนวนที่นายถนอมศักดิ์ จำเลยที่ 2 เคยรับสารภาพยินยอมจะชดใช้ให้ 20-25 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ในส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์นั้นโจทก์ได้ถอนฟ้องไปแล้ว เนื่องจากได้มีการเยียวยาให้โจทก์แล้ว ขณะที่คดี ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว หากจะยื่นฎีกาต้องเสนอให้ผู้พิพากษาอนุญาตฎีกา โดยหลังจากนี้ก็ต้องไปสืบหาทรัพย์ในชื่อของจำเลย มาบังคับคดีเพื่อจำเลยชำระเงินตามคำพิพากษาต่อไป ซึ่งเงินค่าเสียหาย 20 ล้านบาท ส่วนดอกเบี้ยคิดคำนวณประมาณปีละ 1 ล้านบาทนับจากปี 2555
นายวันชัย ทนายความโจทก์กล่าวด้วยว่า มูลเหตุคดีเริ่มเมื่อปี 2550 ที่ น.ส.เอื้อมบุญได้ขายที่ดินย่านสุขุมวิท ราคากว่าร้อยล้าน โดยมอบอำนาจให้นายถนอมศักดิ์ อดีต ผจก.ธนาคาร เป็นผู้นำเงินไปฝากเนื่องจากไว้วางใจ ขณะที่ น.ส.เอื้อมบุญรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยมาทราบว่าเงินหายไปจากบัญชีเมื่อปี 2555 จึงเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม แต่เวลาผ่านมานาน 4 ปี คดีก็ไม่มีความคืบหน้า ตำรวจระบุว่าอยู่ระหว่างสอบพยานเพิ่มเติม ซึ่งคดีเหลืออายุความเพียง 1 ปี ส่วนนายถนอมศักดิ์ปัจจุบันทราบว่าถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำในคดีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก 3 ปี 6 เดือน จากคดีที่ธนาคารไทยพาณิชย์ยื่นฟ้องไว้ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยนายถนอมศักดิ์รับโทษมาใกล้จะครบกำหนดปล่อยตัวในเดือน ก.ค.นี้ จึงอยากให้ตำรวจเร่งสอบสวนคดีที่ได้แจ้งความเพื่ออายัดตัวดำเนินคดีต่อไป