คุมตัวผู้บริหาร “เมก้า” ฝากขัง คัดค้านประกันตัวเกรงหลบหนี (มีคลิป)

MGR Online -ตร.พหลโยธิน คุมตัว 2 ผู้บริหารบริษัท เมก้า แพลนเน็ต ผู้ต้องหาในคดีกระทำการโดยประมาท โดยไม่ปฏิบัติตามสัญญาว่าจ้างและคนงานไม่มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานจนเกิดแก๊สรั่วที่เอสซีบีปาร์ค ฝากขัง พร้อมคัดค้านประกันตัวเกรงจะหลบหนี



วันนี้ (15 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.เฉลียง อินทิพย์ พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธินและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายอดิศร โฟดา อายุ 50 ปี กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด และ นายณพงษ์ สุขสงวน อายุ 44 ปี ประธานกรรมการบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด ผู้ต้องหาในความผิดข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ได้รับอันตรายแก่กายและได้รับอันตรายสาหัส กรณีเหตุระบบดับเพลิงบรรจุสารไพโรเจนทำงานอัตโนมัติ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บริเวณชั้นใต้ดินของธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ เอสซีบีปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก มาขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-26 มี.ค. 2559

เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาจะครบกำหนด 48 ชั่วโมงแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานอีก 20 ปาก รอรายงานการชันสูตรศพและบาดแผลผู้ได้รับบาดเจ็บ ผลการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา รายงานการตรวจสถานที่เกิดเหตุ การตรวจสารเคมี

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2558 บริษัท เมก้าฯ โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้ว่าจ้างปรับปรุงและบำรุงรักษาระบบ Fire Risk Assessment กับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งตามสัญญาบริษัทจะต้องใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความชำนาญและมีประสบการณ์มาตรฐานของผู้ประกอบวิชาชีพในการทำงานตลอดกำหนดระยะเวลาในการทำงานว่าจ้าง โดยจะต้องมอบหมายให้มีผู้ควบคุมการทำงานที่ว่าจ้างทั้งหมดและจะต้องประจำตลอดระยะเวลาที่ทำงาน

ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2559 เวลา 21.08 น.เกิดเหตุระบบดับเพลิงไพโรเจนซึ่งติดตั้งภายในห้องใต้ดิน ชั้น B2 ประตู 5 ของธนาคารไทยพาณิชย์ทำงานอัตโนมัติและพ่นสารเคมีที่บรรจุอยู่ในถังไพโรเจน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวม 8 ราย และมีผู้ได้รับอันตรายแก่กายและสาหัส 7 คน ซึ่งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บส่วนหนึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองให้ช่างมาทำการซ่อมแซมที่เกิดเหตุ โดยใช้สว่านเจาะเพดานเพื่อติดตั้งระบบใหม่จนเกิดฝุ่นละอองทำให้ระบบไพโรเจนจับสัญญาณฝุ่นและพ่นสารเคมีออกมา การกระทำของผู้ต้องหาทั้งสองจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญาว่าจ้างและคนงานไม่มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงาน ถือว่าเป็นการกระทำโดยประมาทของผู้ต้องหาทั้งสอง

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาทนายความผู้ต้องหาทั้งสองได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยชั่วคราวระหว่างสู้คดี โดยศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้โดยตีราคาประกันเป็นเงินคนละ 5 แสนบาท