xs
xsm
sm
md
lg

ตร.รวบสมาชิก “แก๊งโรแมนซ์สแกม” องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตีสนิทผ่านเฟซบุ๊กหลอกเหยื่อโอนเงินสูญร่วม 40 ล้าน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตำรวจท่องเที่ยวตามรวบ 3 คนไทยร่วมแก๊งโรแมนซ์สแกม ตรวจประวัติมีพบหมายจับข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ค่าความเสียหายรวมกว่า 40 ล้านบาท พฤติกรรมตีสนิทผ่านเฟซบุ๊ก ออกอุบายหลอกเหยื่อให้โอนเงิน

วันนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.ท.พุทธพงศ์ เมฆเอี่ยมนภา สว.สืบสวน กก.3 บก.ทท. และฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี แถลงข่าวจับกุม น.ส.ตะวันนา ธาราวสันต์อายุ 42 ปี ชาวอุดรธานี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2584/2559 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมว่าไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ร่วมกันกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรข้ามชาติ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 23 ล้านบาท โดยจับกุมได้บริเวณร้านคุณติ๋มโฮมสเตย์ ตำบลและอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมาได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวอุดรธานีว่าถูกบุคคลที่อ้างชื่อว่า นายแฟรงก์ นิโคลาส (Frank Nicholas) เป็นชาวไนจีเรียซึ่งได้รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊กโดยไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเสียหายหลายล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่าบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินมีทั้งสิ้น 3 บัญชี คือ น.ส.สุมา กาสา อายุ 33 ปี, น.ส.สิริวลี นรรัตน์ อายุ 34 ปี และนายภัทรดนัย จันทร์คล้าย อายุ 26 ปี ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดอุดรธานีออกหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมว่าไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำมาสู่การจับกุมน.ส.สุมา ทั้งนี้จากการขยายผล น.ส.สุมา ให้การซัดทอดไปยัง น.ส.ตะวันนา ว่าเป็นผู้ให้ทำการเปิดบัญชีธนาคาร 6 บัญชี ได้รับค่าจ้างเป็นเงินบัญชีละ 5,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนจนจับกุม น.ส.ตะวันนาได้ขณะหลบหนีอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่ามีผู้เกี่ยวมากกว่า 7 คนขึ้นไปซึ่งกำลังขออนุมัติหมายศาลออกหมายจับอีก 3 คนที่เป็นคนไทย และคาดว่ายังคงอาศัยอยู่ในประเทศไทยอีกด้วย สำหรับ นายแฟรงก์นั้นคาดว่าไม่มีตัวตนจริง เป็นเพียงเฟซบุ๊กปลอมที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกเอาเงินผู้ที่หลงเชื่อ

จากการสอบปากคำ น.ส.ตะวันนาให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากหญิงสาวรายหนึ่งให้ช่วยเปิดบัญชีให้ โดยจะมีค่าตอบแทนบัญชีละ 5,000 บาท ตนได้เปิดไปทั้งหมด 5 บัญชี เนื่องจากตนเดือดร้อนต้องการใช้เงิน ต่อมาหญิงคนดังกล่าวได้ขอให้ตนไปติดต่อหาบุคคลอื่นเพื่อต้องการให้เปิดบัญชีเพิ่ม ตนจึงไปติดต่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่เคยทราบมาก่อนว่าตนเองถูกออกหมายจับกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.ตะวันนามีหมายจับข้อหาฉ้อโกงของกองบังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีซึ่งมีมูลค่ากว่า 17 ล้านบาทด้วย

ขณะที่ผู้เสียหาย (ของสงวนชื่อ-สกุล) เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายแฟรงก์ผ่านทางเฟซบุ๊ก อีกทั้งทำงานร้านอาหารอยู่ที่ประเทศมาเลเชีย โดยนายแฟรงก์ทำทีมาติดสนิทพูดคุย ในตอนแรกตนไม่สนใจ กระทั่งมีการติดต่อกันเรื่อยมากว่า 6 เดือนจึงเกิดความเชื่อใจ กระทั่งเมื่อปี 2557 ผู้ต้องหาบอกว่าพ่อตนได้เสียชีวิตและพ่อได้ให้เช็คไว้ แต่ต้องมาค่าธรรมเนียมในการขึ้นเช็ค จึงได้ขอยืมเงินของตน โดยครั้งแรกตนโอนไปให้ 60,000 เหรียญยูเอส และจากนั้นนายแฟรงก์ก็ได้ขอยืมเงินตนอยู่เรื่อยๆ ซึ่งอ้างเหตุผลต่างๆนานาว่าติดปัญหาด้านการดำเนินการของสถาบันการเงิน โดยตนโอนไปประมาณ 10 ครั้งในระยะเวลา 2-3 เดือน เป็นเงินมูลค่ากว่า 23 ล้านบาท เหตุที่ให้เพราะสงสารอยากจะช่วยเหลือแต่ไม่คิดว่าจะพบกับเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนได้เข้าไปแจ้งความกับทางดีเอสไอแต่เรื่องก็ยังเงียบจึงตัดสินเข้าแจ้งความอีกครั้ง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม น.ส.ตะวันนา เจ้าของบัญชีที่ตนได้โอนเงินไปให้ได้
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น