MGR Online - เริ่มแล้ว! แต่งตั้ง สว.-รอง ผบก. “ผบ.ตร.” ออกกฎใหม่ - ตั้งบอร์ดกลั่นกรองนั่งหัวโต๊ะเอง เปิดทางใหม่ ผบ.ตร.แต่งตั้งโยกย้ายได้ แม้จะครองตำแหน่งไม่ถึง 2 ปี เพื่อความคล่องตัว
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า หลังจากมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งที่ 21/2559 ลงวันที่ 26 เม.ย. 2559 เรื่องการปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกำหนดให้ ผบ.ตร.เป็นผู้สั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามมาตรา 54 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 44/2558 เรื่องการแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจลงวันที่ 4 ธ.ค. 2558 ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 2559 จนกว่าการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี 2559 จะแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ การแต่งตั้งดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งที่ ผบ.ตร.กำหนดเป็นการเฉพาะไปพลางก่อน ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร.ได้กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่ง ระดับ สว.-รอง ผบก. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งมีบันทึกข้อความ ลงวันที่ 26 เมษายน ถึงผู้บัญชาการทุกหน่วยและผู้บังคับการในสังกัด สง.ผบ.ตร. กำหนดแนวทางการแต่งตั้งแล้ว พร้อมออกคำสั่ง ตร.ที่ 638/2559 ลงวันที่ 26 เม.ย. 2559 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งสารวัตร (สว.) ถึงรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.)
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า คณะกรรมการกลั่นกรอง มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นประธาน ตนเป็นรองประธาน พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผบช.สง.ก.ตร. พล.ต.ต.สรไกร พูนเพิ่ม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.อภิสัณห์ หว้าจีน ผกก. ฝ่ายอำนวยการ 1 บก.อก. กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นกรรมการ พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผบช.สกพ. เป็นกรรมการและเลขานุการ พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ ผู้บังคับการกองทะเบียนพล (ผบก.ทพ.) เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ผกก.ฝ่ายแต่งตั้ง บก.ทพ. รอง ผกก.ฝ่ายแต่งตั้ง บก.ทพ.และสารวัตร ฝ่ายแต่งตั้ง บก.ทพ. เป็นเจ้าหน้าที่
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า คณะกรรมการนี้มีอำนาจหน้าที่ พิจารณาบัญชีข้อมูลการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่หน่วยต่างๆ เสนอว่าเป็นไปตามกฎหมายระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เสนอแนะรายชื่อข้าราชการตำรวจนอกเหนือที่หน่วยเสนอข้อมูลการแต่งตั้งได้ตามความเหมาะสม หากพิจารณาเห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้นั้นเป็นผู้มีความรู้ความสามารถเหมาะสม ซึ่งหากได้รับการแต่งตั้งแล้วเกิดประโยชน์ต่อทางราชการยิ่งขึ้น และเชิญหัวหน้าหน่วยหรือหน่วยงาน รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง หรือข้อมูลหรือเอกสาร ทั้งนี้ เมื่อคณะกรรมการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เสร็จสิ้นแล้วให้มีความเห็นเสนอ ผบ.ตร. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวด้วยว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกรุณาออกคำสั่งโดยใช้มาตรา 44 เพื่อให้การแต่งตั้งครั้งนี้ ผบ.ตร.สามารถใช้อำนาจบริหารให้การแต่งตั้งแล้วเสร็จทันวันที่ 30 เมษายน เพราะหากใช้เพียงอำนาจตามาตรา 56 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ตามที่ ก.ตร.อนุมัติไปก่อนหน้านี้มีหลายประเด็นที่ยังต้องขออนุมัติ ก.ตร.อีก จึงเล็งเห็นว่าไม่สามารถทำได้ทันเวลา ยืนยันว่า ผบ.ตร.จะแต่งตั้งด้วยอำนาจตามมาตรา 44 อย่างเป็นธรรม ให้ความเป็นธรรมกับตำรวจทุกนาย ขออย่าห่วงว่าจะมีการลุแก่อำนาจตามที่หลายฝ่ายกังวล
ด้าน พล.ต.ต.สรไกร ในฐานะกรรมการกลั่นกรองการแต่งตั้ง กล่าวว่า ผบ.ตร.กำหนดแนวทางการแต่งตั้ง ให้ผู้บัญชาการทุกหน่วยเสนอบัญชีมายัง ผบ.ตร.ภายในวันที่ 29 เมษายน จากนั้นวันที่ 30 เมษายน ผบ.ตร.จะประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฯและออกคำสั่งแรกภายในวันที่ 30 เมษายน ทั้งนี้การมีกรรมการกลั่นกรองเพื่อเป็นหลักประกันว่าการพิจารณาแต่งตั้งแม้ภายใต้อำนาจมาตรา 44 แต่มีการพิจารณาในรูปคณะกรรมการ โดยการแต่งตั้งนั้นหลักการตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่เป็นไปตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ฯ ปี 2549 ในการจัดทำบัญชีผู้เหมาะสม และต้องแต่งตั้งตามสัดส่วนอาวุโสร้อยละ 33 มีการยึดจำนวนปีในการครองตำแหน่งตามหลักเกณฑ์
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการบวกจำนวนปีการครองตำแหน่งในการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นนั้น โดยหลักยึดตามหลักเกณฑ์ ที่ถือเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ แต่จะมีการบวกเพิ่มหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ผบ.ตร.และคณะกรรมการกลั่นกรองที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตามแนวทางการแต่งตั้งไม่กำหนดว่าต้องแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลโรงพักเพื่อประชาชน แนวทางนี้ยกเลิกไปตั้งแต่ปีที่แล้วเพราะมองว่ามีช่องว่ามีการวิ่งเต้นให้ได้รับรางวัลเพื่อหวังเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ ตามแนวทางใหม่ ผบ.ตร.สามารถแต่งตั้งโยกย้ายได้แม้จะอยู่ในตำแหน่งไม่ถึง 2 ปี เพื่อความเหมาะสม คล่องตัว ทั้งนี้ ในแนวทางแต่งตั้งฯ ให้ใช้ข้อมูลจากประชาชน และหน่วยงานความมั่นคง เสนอแนะมาประกอบการพิจารณาด้วย และมีการกำหนดให้ตำรวจสังกัดศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนออกนอกพื้นที่ และสนับสนุนให้ตำรวจย้ายกลับภูมิลำเนา รวมทั้งสามารถเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นข้ามกองบัญชาการได้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าในช่วงเย็นวันนี้ ผบ.ตร.จะประชุมกับผู้บัญชาการทุกหน่วยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์