xs
xsm
sm
md
lg

รวบอดีตผู้ต้องขังพร้อมพวกลอบขายยาเสพติดให้นักศึกษา-สถานบันเทิง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตำรวจ บช.ปส. วางแผนล่อซื้อยาเสพติดก่อนตามจับกุม อดีตผู้ต้องขังพร้อมแฟนสาว และพวก รวม 4 ราย สารภาพจำหน่ายให้นักศึกษาและสถานบันเทิง ย่านรัชดา ห้วยขวาง สุทธิสาร ฯลฯ ก่อนนำตัวไปขยายผล

วันนี้ (9 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด พ.ต.อ.สุรภัค รอดโพธิ์ทอง พ.ต.อ.อดิศ เจริญศักดิ์ พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.ชัยโรจน์ ชัยยะ รอง ผบก.ปส.2 โฆษก บช.ปส. พ.ต.อ.ณัทณพงศ์ หลิ่มวิรัตน์ ผกก.1 บก.ปส.3 และ พ.ต.อ.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผกก.2 บก.ปส.3

ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายชาคริต หรือ แฟรงค์ ช้างบุญชู อายุ 29 ปี ชาวฉะเชิงเทรา น.ส.ตวงพลอย หรือ ตวง ดวงดี อายุ 22 ปี ชาวสมุทรปราการ นายคมสันต์ หรือ ตี๋ แซ่จึง อายุ 22 ปี และ นายชานนท์ หรือ ต้น วงษ์ยี่ อายุ 36 ปี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 1 กิโลกรัม ยาบ้า จำนวน 4 หมื่นเม็ด เคตามีน หรือ ยาเค จำนวน 189 ขวด รถยนต์กระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กจ 3266 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เอ็มเอสเอ็กซ์ 125 สีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เตาอบไมโครเวฟ จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง และอื่น ๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

โดยสามารถควบคุมตัวได้ภายในร้านแมคโดนัลด์ สาขาห้างสรรพสินค้า เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์ตร้า เลียบทางด่วนรามอินทรา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. ต่อเนื่องบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ภายในซอยนวมินทร์ 157 ถนนนวมินทร์ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. และห้องพักเลขที่ 339/67 ซอยอินทามระ 47 แขวงและเขตดินแดง กทม.

สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งว่า นายชาคริต ซึ่งเป็นอดีตผู้ต้องขังยังคงมีพฤติการณ์ลักลอบค้าขายยาเสพติดหลังพ้นโทษให้กับกลุ่มนักศึกษาในเขตพื้นที่ใกล้มหาวิทยาลัย ย่านรัชดา ห้วยขวาง สุทธิสาร ลาดพร้าว และ รามอินทรา โดยมี น.ส.ตวงพลอย แฟนสาว ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง คอยทำหน้าที่หาลูกค้าจากกลุ่มนักศึกษาภายในสถาบันเดียวกัน และตามสถานศึกษาย่านดังกล่าว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกอุบายติดต่อ นายชาคริต เพื่อทำการล่อซื้อยาไอซ์ จำนวน 1 กิโลกรัม ในราคา 9 แสนบาท และยาบ้าอีกจำนวน 20 มัด ในราคา 1.6 ล้านบาท ก่อนนัดส่งมอบของกลางกันที่ภายในร้านแมคโดนัลด์ดังกล่าว ในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงเวลานัดหมายพบ นายคมสันต์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้เดินทางมาส่งมอบโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะและมีรูปพรรณสัณฐานตรงตามเบาะแสที่ได้รับ

เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น ก่อนขยายผลจับผู้ต้องหาทั้งหมดที่เหลือซึ่งนั่งรอรับเงินค่ายาเสพติดอยู่ภายในรถยนต์กระบะที่บริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าว พร้อมทั้งนำตัว นายชาคริต และ น.ส.ตวงพลอย ไปตรวจค้นที่บ้านพักย่านรามอินทรา ซึ่งพบยาเคตามีนอีกจำนวน 189 ขวด ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางมาสอบสวนเพิ่มเติม

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับยาเสพติดมาจากนายหน้าอีกทอดหนึ่ง ส่วนยาเคตามีนนั้นได้ซื้อมาจากร้านขายยา ก่อนนำมาจำหน่ายให้กับกลุ่มนักศึกษา และตามสถานบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้เนื่องจากอยู่ระหว่างการขยายผลเข้าจับกุม ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในส่วนของยาเคตามีน พบว่า ทางการแพทย์จะนำมาใช้เป็นยาสลบให้กับผู้ป่วย แต่ผู้เสพยาเสพติดกลับนำมาใช้ผิดประเภทเพื่อให้เกิดอาการหลอนประสาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ และ ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน นายชาคริต และ น.ส.ตวงพลอย ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานความผิด ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไว้ครอบครองเกินประมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ พล.ต.ท.เรวัช ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกรณีกลุ่มชาวภูฏาน อินเดีย และเนปาล ลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยการนำยาไอซ์บรรจุในถุกยางแล้วกลืนไปในร่างกาย หรือ บอดีเเพ็กเกอร์ ว่า การขนถ่ายยาเสพติดแต่เดิมทีมักจะเป็นคนผิวสีมีวิธีการหลอกหญิงสาวชาวไทยมาเป็นแฟนหรือภรรยา จากนั้นจะออกอุบายอ้างพาเหยื่อไปเยี่ยมญาติที่ต่างประเทศ โดยจะอาสาจัดเตรียมกระเป๋าเดินทางให้ แต่กลับแอบซุกซ่อนยาเสพติดเข้าไปในกระเป๋าด้วย ซึ่งทาง บช.ปส. เคยจับกุมมาแล้วกว่า 200 ราย โดยระยะหลังขบวนการยาเสพติดมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการส่งผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ และวิธีสุดท้ายคือ บอดีเเพ็กเกอร์ แต่ก็เคยเกิดข้อผิดพลาดถุงแตกในร่างกายทำให้เสียชีวิตมาแล้วหลายราย ซึ่งการลำเลียงลักษณะนี้ส่วนใหญ่เป็นคนผิวสี แต่ก็เพิ่งเคยพบว่า ชาวภูฏานใช้วิธีการลักษณะดังกล่าวเป็นครั้งแรก

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น