MGR Online - หนุ่มเขมรขอคืนดีแฟนไม่สำเร็จ ชักปืนยิงดับคาชุมชนมหาดไทย เขตประเวศ สลดลูกสาวคนโตเห็นเหตุการณ์คาตา ด้าน ตร.คาดปมหึงหวง สั่งชุดสืบเร่งตามตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ร.ต.อ.วิรัตน์ เมณฑ์กูล สว.สอบสวน สน.อุดมสุข รับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในชุมชนมหาดไทย 4 ถ.รามคำแหง 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ธวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ รอง ผบก.น.4 รรท.ผกก.สน.อุดมสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปากทางเข้าชุมชนพบศพ น.ส.อุไรรัตน์ วรรณทิม อายุ 31 ปี สวมเสื้อยืดสีเลือดหมู ใส่เสื้อคลุมสีม่วง นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ ใส่รองเท้าผ้าใบ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าบริเวณใต้เบ้าตาขวา แก้มขวาทะลุซ้าย และขาขวา รวม 3 นัด นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนตกในที่เกิดเหตุจำนวน 4 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน น.ส.ศรีรัตน์ แดงมีทรัพย์ อายุ 60 ปี มารดาของ น.ส.อุไรรัตน์ ให้การว่า ผู้ก่อเหตุคือนายวิเชียร แสงแก้ว อายุ 32 ปี ชาวเขมร เป็นสามีเก่าของ น.ส.อุไรรัตน์ โดยทั้งคู่มีอาชีพเป็นรับเหมาก่อสร้าง อยู่กินกันมาแล้ว 14 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนเลิกรากันเมื่อประมาณ 5 เดือนที่แล้ว เนื่องจากทนที่ถูกนายวิเชียรทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง หนักสุดเคยใช้สายไฟรัดคอและโดนสากทุบหัว สาเหตุจากเรื่องหึงหวง ต่อมา น.ส.อุไรรัตน์ได้หนีไปทำงานเป็นแม่ครัวที่ จ.นครปฐม ขณะที่ฝ่ายชายได้มีแฟนใหม่อยู่ในละแวกชุมชนดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุนายวิเชียรได้โทรศัพท์ไปหา น.ส.อุไรรัตน์ เพื่อให้กลับมาพาลูกชายวัย 8 ขวบไปทำบัตรประชาชนที่สำนักงานเขตประเวศ โดยอ้างว่าต้องไปทำธุระเกี่ยวกับงานที่ จ.เชียงใหม่
น.ส.ศรีรัตน์กล่าวต่อว่า จนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.อุไรรัตน์เดินทางกลับมาที่บ้านและจะออกมาพร้อมลูกสาวเพื่อไปถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มที่บริเวณหน้า ม.รามคำแหง วิทยาเขตบางนา เมื่อเดินออกมาถึงจุดเกิดเหตุนายวิเชียรได้พุ่งออกมาจากเล้าไก่ที่อยู่บริเวณทางเข้าชุมชน ซึ่งนายวิเชียรได้พยายามพูดจาขอคืนดี แต่ถูกฝ่ายหญิงปฏิเสธไม่ขอคืนดีด้วยเพราะนายวิเชียรมีแฟนใหม่แล้ว ก่อนจะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จากนั้นนายวิเชียรจึกชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ น.ส.อุไรรัตน์จนล้มลงเสียชีวิต ต่อหน้าต่อตาลูกสาวคนโตวัย 14 ปีแล้วหลบหนีไป
ด้าน พ.ต.อ.ทวีรัชต์เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากเรื่องหึงหวง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากทราบตัวผู้ที่ก่อเหตุชัดเจน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนให้เจ้าหน้าที่นำศพส่งนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป