xs
xsm
sm
md
lg

แต่งตั้ง “นายพัน” หลังสงกรานต์ เคลียร์เก้าอี้-ยึดเกณฑ์ก.ตร.เดิม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
ถือเป็นการเริ่มต้นสัญญาณการแต่งตั้ง สว.-รองผบก.ประจำปี 2558 ที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม และมีแนวโน้มที่ดี และเชื่อว่าอย่างไรเสียการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” น่าจะเสร็จไม่เกินเดือนเม.ย.ตามที่จะมีการร้องขอขยายเวลการแต่งตั้งโยกย้ายล่าสุดจากวงประชุม ก.ตร.แน่นอน เพราะถ้ายังปล่อยให้ยืดเยื้อเลยเดือนแห่งเทศกาลวันสงกรานต์ไปแล้ว ความชุ่มช่ำจากสายน้ำ จะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำมัน ราดรดเก้าอี้ “ผบ.ตร.” ของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ให้ร้อนระอุเพิ่มขึ้นไปอีก

น่าจะชัดเจนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” เก้าอี้ สารวัตร(สว.)-รองผู้บังคับการ(รองผบก.) ทั่วประเทศประจำปี 2558ที่ขีดเส้นครั้งล่าสุดต้องเสร็จภายในวันที่ 31 มี.ค.2559 จะขยายเวลาการแต่งตั้งออกไปอีก 1เดือน หรือวันที่ 30 เม.ย.2559หลังช่วงสงกรานต์ตามกระแสที่สะพัดมาก่อนหน้านี้

แม้ต้องรอมติอย่างเป็นทางการ จากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ในการประชุมวันที่ 22 มี.ค.นี้ แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะ ก.ตร.ที่จะมีขึ้น “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี จะนั่งเป็นประธานประชุม ก.ตร. แทน”บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งคงไฟเขียวตลอดทางตามวาระที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอขยายเวลาการแต่งตั้งตำรวจวาระประจำปี 2558 ระดับ สว.-รองผบก.ออกไปอีก 30 วัน

เป็นการเลื่อนครั้งที่ 6 และก็น่าจะเป็นการขอขยายเวลาการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” ครั้งสุดท้าย!!!!หลังจากก่อนหน้านี้การแต่งตั้งระดับ สว.-รองผบก. ประจำปี 2558 ถูกขยายเวลาการแต่งตั้งมาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ครั้งแรก ก.ตร. กำหนดให้ทำบัญชีแต่งตั้งประจำปีให้เสร็จภายในวันที่ 31 พ.ย.2558 ก็ขยายมาเป็น 31 ธ.ค.2558ขยับมาเป็น 31 ม.ค.2559 ยาวมาถึง 29 ก.พ.2559และมาเป็น 31 มี.ค.2559กระทั่งล่าสุดเตรียมขยายระยะเวลาการแต่งตั้งไปถึงวันที่ 30 เม.ย.2559

ไม่ใช่ติดหลักเกณฑ์ ติดเงื่อนไข หรือติดเงื่อนเวลาใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่กระบวนการจัด “เก้าอี้” ให้เพียงพอต่อ “ตั๋ว” รันเวย์ต่างๆได้ถูกเคลียร์เรียบร้อย ไร้ขวากหนาม ไร้อุปสรรค พร้อมที่จะจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ “นายพัน” ประจำปี 2558 เสียที

เมื่อการปรับยุบตำแหน่งพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “นายพัน” เพราะจะมีพนักงานสอบสวนหลายคนอยู่ในเกณฑ์33% จะขยับออกมาเติบโตนอกแท่งพนักงานสอบสวน และปิดหัวตำแหน่งหลักๆ ทำให้ “เก้าอี้” บางแถว บางแท่ง ลดลง ได้ถูกดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบน้อย ตามคำสั่ง หัวหน้า คสช.ที่ 7/2559เรื่องการคัดเลือกหรือการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ซึ่งเกี่ยวกับการยุบเลิกตำแหน่งและเงินประจำตำแหน่งพนักงานสอบสวน

โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ได้ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 15 มี.ค.2559แต่งตั้งโยกย้ายพนักงานสอบสวนทั่วประเทศจำนวน 10,428 ตำแหน่ง ไปดำรงตำแหน่งต่างๆทำหน้าที่ในการสอบสวน ในหน่วยงานขึ้นตรงกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้มีผลพร้อมกันในวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับกลุ่มตำรวจที่ได้รับการเยียวยาจากการแต่งตั้งโยกย้ายไม่ชอบ ซึ่งคณะอนุกรรมการ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ ชุดที่มีพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยเป็น รองผบ.ตร. มีมติให้ “เยียวยา” ในการแต่งตั้งโยกย้ายวาระที่จะเกิดขึ้นในทันทีกว่า 100 ราย จะไม่มีการนำเงื่อนไขเยียวยาดังกล่าวมาใช้สิทธิในการแต่งตั้งครั้งนี้

อ้างอิงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 6/2559เรื่องการคัดเลือกหรือการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะข้อ 1.ให้บรรดาการคัดเลือกหรือการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้องที่ได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.2557จนถึงวันที่คำสั่งมีผลบังคับใช้ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย

นอกจากนี้ในส่วนหลักเกณฑ์การแต่งตั้งระดับ “นายพัน” ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. ก็ชัดเจนเช่นกันว่า นโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้หลักเกณฑ์ ก.ตร.เดิมในการแต่งตั้งโยกย้าย ตามข้อสั่งการของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่แจ้งไว้ในการประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วนกฎ ก.ตร.ใหม่ ก็ยังคงให้เดินหน้าดำเนินการต่อ และนำไปใช้ในคราวหน้า

หลักเกณฑ์คุณสมบัติการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ที่จะนำมาพิจารณาในการแต่งตั้งครั้งนี้ ระดับ สารวัตร(สว.) ยศ "พ.ต.ต." ไปจนถึง รองผู้บังคับการ(รองผบก.) ยศ พ.ต.อ. คือรองสารวัตร (รอง สว.) เลื่อนเป็น สารวัตร (สว.) ต้องครองตำแหน่งเดิมมาไม่น้อยกว่า 7 ปี สารวัตร (สว.) เลื่อนเป็น รองผู้กำกับการ (รอง ผกก.) ต้องครองตำแหน่งเดิมมาไม่น้อยกว่า 5 ปี รองผู้กำกับการ (รอง ผกก.) เลื่อนเป็น ผู้กำกับการ(ผกก.) ต้องครองตำแหน่งเดิมมาไม่น้อยกว่า 3 ปี และผู้กำกับการ (ผกก.) เลื่อนเป็น รองผู้บังคับการ (รองผบก.) ต้องครองตำแหน่งเดิมมาไม่น้อยกว่า 4 ปี

ที่สำคัญกระบวนการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” ก็มีสัญญาณเดินหน้าชัดเจนแล้ว จากที่”บิ๊กหิน”พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล(สกพ.) มีหนังสือเวียนถึง ผบช.ทุกหน่วย เรื่องประกาศลำดับ โดยให้หน่วยต่างๆ จัดทำบัญชีลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจ ระดับ รองสว.-ผกก. ในสังกัดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น แล้วประกาศให้ข้าราชการตำรวจทราบโดยทั่วกันมาตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยแจ้งตำรวจที่เห็นว่าลำดับอาวุโสไม่ถูกต้องสามารถยื่นต่อผู้มีอำนาจให้พิจารณาทบทวนได้ภายในวันที่ 22 มี.ค.นี้
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น