xs
xsm
sm
md
lg

จับป้ามหาภัยหลอกตุ๋นเงินชาวนาร่วม 7 แสนบาท อ้างทำเพราะโลภ ตร.ล่าผู้ร่วมขบวนการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตร.กองปราบฯ แถลงจับป้ามหาภัย หลอกตุ๋นชาวนาทำทีขอซื้อวัวพร้อมออกอุบายหลอกซื้อ เหยื่อหลงเชื่อกดเงิน 700,000 บาท ก่อนผู้ร่วมขบวนการสลายตัวหนี ผู้ต้องหารับทำเพราะความโลภ พบมีหมายจับติดตัวร่วม 3 หมายในคดีลักษณะเดียวกัน มูลค่าเสียหายรวม 2 ล้านบาท



วันนี้ (16 มี.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รักษาการ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. ร.ต.อ.เอนก บุญตา รอง สว.กก.2 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นางเดือนเพ็ญ ศรีวิเชียร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ 3 ต.บางพลีน้อย อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 335/2558 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่นและอาศัยความอ่อนแอแห่งจิตใจของผู้ถูกหลอกลวง จับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา

พล.ต.ต.ชาญกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวก หลอกลวงนายโอภาส จิตตคาม อายุ 64 ปี เกษตรกรในพื้นที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยทำทีเข้ามาติดต่อขอซื้อวัวพันธุ์ฮินดูบราซิล 3 ตัว แต่ยังไม่ทันได้จ่ายเงินก็จะชักชวนผู้เสียหายติดรถพาออกไปตระเวนหาซื้อวัวเพิ่มเติม ระหว่างนั้นก็ออกอุบายว่าพบที่นาซึ่งมีทำเลดี น่าซื้อไว้เก็งกำไรในราคา 1,300,000 บาท จากนั้นได้ให้ผู้ร่วมกระทำผิดอีกรายทำทีเป็นเจ้าของที่นา โทรศัพท์ติดต่อหานายทุน แล้วแสร้งระบุว่าพบที่ดินสวยตกลงจะซื้อในราคา 2 ล้านบาท โดยคนร้ายจะอ้างว่ามีเงินสดไม่พอ ต้องการหาคนร่วมลงทุนจึงเริ่มหว่านล้อมผู้เสียหายโดยเสนอว่าจะให้ผลกำไรตอบแทน 300,000 บาท

พล.ต.ต.ชาญกล่าวต่อว่า เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ กลุ่มคนร้ายก็จะพาตัวไปเบิกเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาบางไทร เป็นจำนวน 700,000 บาท แล้วพาเดินทางยังที่ดินซึ่งอ้างว่าจะทำการซื้อขาย ก่อนจะรับเอาเงินจากผู้เสียหายมา แต่ระหว่างที่เหยื่อลงจากรถทั้งหมดก็จะพากันขึ้นรถหลบหนีไป ภายหลังเกิดเหตุทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ กระทั่งชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.ติดตามจับกุมดังกล่าว

สอบสวนนางเดือนเพ็ญรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกออกอุบายหลอกลวงผู้เสียหายจริงแต่ก็จะกระทำกับคนที่มีความโลภอยากได้เงินเท่านั้น

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่ายังมีหมายจับติดตัวอยู่อีก 3 หมาย ประกอบด้วย หมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 487/2556, 191/2557 และ 303/2557 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ โดยลงมือก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้ในพื้นที่ อ.ท่าใหม่, อ.ขลุง และ อ.เมือง จ.จันทบุรี รวมมูลค่าเสียหายกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา รับไว้ดำเนินคดีและขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น