MGR Online - คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. สั่งยึดเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวไต้หวันร่วม 11 ล้าน กรณีอ้างมีกลุ่มคนร้ายบุกปล้นกลางเชียงใหม่ เผยผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศตั้งแต่ปี 52 ไม่กลับเข้าไทยอีก
จากกรณีกลุ่มคนร้ายบุกปล้นบ้านนักธุรกิจไต้หวันอย่างอุกอาจ บริเวณกลางเมืองเชียงใหม่ โดยใช้อาวุธปืนและมีดจี้บังคับเหยื่อ ก่อนกวาดเงิน 11 ล้านหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยช่วยประสานสกัดจับ จนกระทั่งพบรถตู้ต้องสงสัย หมายเลขทะเบียน ฮค 902 กทม. จากการตรวจค้นภายในรถพบผู้โดยสารเป็นชาวไต้หวัน 4 ราย และคนขับรถเป็นคนไทย 1 ราย พร้อมของกลางเป็นเงินที่ปล้นมาได้จำนวน 11 ล้านบาท ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าหิ้วสำหรับเดินทาง ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2552
ล่าสุด วันนี้ (10 มี.ค.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ปปง. ได้รับรายงานจาก สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ เกี่ยวกับพฤติกรรมของ นายเกา ฮั่น เจี๋ย, นายสู่ เซียน จี้ กับพวกชาวจีนไต้หวัน ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ หรือร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะ เพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป เมื่อปี 2552
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า นายเกา ฮั่น เจี๋ย อ้างว่า มีกลุ่มคนร้ายชาวไต้หวัน 6 คน ปล้นทรัพย์สินไปได้ประมาณ 10 ล้านบาท ภายในบ้านเลขที่ 259 ถ.ป่าตัน ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แล้วหลบหนีไปเมื่อปี 2552 แต่จากการสืบสวนสอบสวน นายเกา ฮั่น เจี๋ย, นายสู่ เซียน จี้ กับพวก พบว่า มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 3 พ.ร.บ. ฟอกเงิน พ.ศ. 2542 (3) ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ด้วยรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์หลอกลวงให้ประชาชนโอนเงิน ซึ่งในช่วงเวลาเกิดเหตุปล้นทรัพย์ในคดีนี้เป็นห้วงเวลาสถานที่หลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ เป็นแหล่งที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชาวจีนไต้หวัน ซึ่งน่าเชื่อว่า บ้านเลขที่ 259 ถ.ป่าตัน ต.ป่าตัน เป็นแหล่งที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
“การที่ นายเกา ฮั่น เจี๋ย แจ้งความร้องทุกข์แล้ว จนกระทั่งตำรวจสามารถจับกุมจำเลยทั้ง 4 พร้อมยึดของกลางได้ แต่ นายเกา ฮั่น เจี๋ย กลับเร่งเดินทางกลับสาธารณรัฐประชาชนจีน (ไต้หวัน) ในเช้าวันรุ่งขึ้นทันที โดยไม่อยู่ขอรับเงินของกลางที่อ้างว่าเป็นของตนก่อน และไม่ยอมเดินทางกลับมาประเทศไทยอีก แสดงให้เห็นถึงความมีพิรุธ ว่าเงินจำนวนดังกล่าวต้องเป็นเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และในฐานะผู้เสียหายก็สามารถใช้สิทธิขอรับเงินคืนได้ จึงเชื่อได้ว่า นายเกา ฮั่น เจี๋ย นายสู่ เซียน จี้ กับพวก แจ้งความเท็จ และทรัพย์สินที่แจ้งว่าโดนปล้นไป มีธนบัตรไทย จำนวน 10,979,600 บาท บาท เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนที่มีลักษณะของการกระทำผิดในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 4/2559 เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา จึงมีมติให้ยึดทรัพย์สินของนายเกา ฮั่น เจี๋ย นายสู่ เซียน จี้ กับพวกไว้ชั่วคราว 1 รายการ ธนบัตรไทย จำนวน 10,979,600 บาท” พ.ต.อ.สีหนาท กล่าว