xs
xsm
sm
md
lg

ร้อง ป.ป.ท.เอาผิด 3 ตร.สน.บวรมงคลเรียก 2.4 ล้านบาท เคลียร์คดีลักพระ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้อง ป.ป.ท.เอาผิด 3 ตำรวจระดับสารวัตร-ผู้กำกับ สน.บวรมงคล รีดไถเงิน 2.4 ล้านบาทเพื่อเคลียร์คดี พร้อมออกหมายจับซ้อน แต่สุดท้ายสำนวนยังไม่มีการส่งอัยการสั่งฟ้องแต่อย่างใด ในพรุ่งนี้เตรียมไปร้อง “บิ๊กต๊อก” ใช้ ม.44 จัดการ

วันนี้ (1 มี.ค.) เวลา 13.30 น. ชั้น 28 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) อาคารซอฟต์แวร์ปาร์ก ถ.แจ้งวัฒนะ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายื่นหลักฐานต่อนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เพื่อดำเนินคดีอาญาต่อขบวนการตำรวจนครบาล สน.บวรมงคล ค้าสำนวนยัดข้อหาผู้ต้องหาพร้อมรีดเงิน 2.4 ล้านบาท ตั้งแต่ระดับสารวัตรถึงระดับผู้กำกับ

นายอัจฉริยะกล่าวว่า วันนี้เดินทางมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อตำรวจ สน.บวรมงคล 3 นาย ได้แก่ พ.ต.ท.มนตรี กองจำปา รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.ชัยกรัณย์ เพ็งธนาสกุล หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้, พ.ต.ต.ณัฐพนธ์ จุ้ยอำนวย พนักงานสอบสวนและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยคดีอาญาทางกฎหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับต่ำกว่าผู้กำกับสามารถมายื่นเรื่องได้ที่ ป.ป.ท. นอกจากนี้ ทางชมรมฯ เคยร้องไปทาง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งทาง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาและมีความคืบหน้าไปค่อนข้างเยอะ

นายอัจฉริยะกล่าวอีกว่า ผู้เสียหายเดินทางมาร้องเรียนที่ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ตนจึงเอาหลักฐานเป็นคลิปเสียงและคลิปวิดีโอซึ่งเป็นบทสนทนาระหว่างผู้เสียหายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งเอกสารการโอนเงินต่างๆ เพื่อยืนยันว่าตำรวจรับผลประโยชน์จริง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับซ้อนพร้อมกับเปลี่ยนข้อหาด้วยและเอาสำนวนคดีดังกล่าวไปดองไว้ไม่ยอมส่งอัยการฟ้องศาลตั้งแต่ปี 2557 กระทั่งปัจจุบัน

“ในวันที่ 3 มี.ค. ผมจะเดินทางไปกระทรวงยุติธรรมเพื่อยื่นเรื่องต่อ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษและใช้มาตรา 44 ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้ง ขอคุ้มครองพยานเพื่อรักษาความปลอดภัย” นายอัจฉริยะกล่าว

ด้านนายประยงค์เปิดเผยว่า หลังจากนี้รับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ท.หรือไม่ เข้าข่ายกระทำความผิดอย่างไร หากสรุปออกมาว่าไม่ผิดจะยุติคดีลงแต่ถ้าหากผิดจริงก็ดำเนินการไต่สวนในวิธีการเดียวกันกับ ป.ป.ช. คือ ตรวจสอบข้อมูลผู้ร้องเรียนและให้ผู้ถูกกล่าวหามาให้ข้อมูล ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะใช้เวลาสรุปแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ 17 มิ.ย. 57 ตำรวจ สน.บวรมงคล จับกุมนายสุพัฒน์พงศ์ หรือโอม เตาลานนท์ อายุ 39 ปี พร้อมของกลางเป็นพระพุทธรูป 2 องค์ วัดภคินีนาถ ย่านบางพลัด มูลค่าการประเมินองค์ละ 3 ล้านบาท จึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูปโดยกระทำในวัดโดยใช้ยานพาหนะ โดยเจ้าตัวกล่าวว่าทำการซื้อขายพระพุทธรูปกับพระประสิทธิ์ โสภโณ พระลูกวัดดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อพร้อมกล่าวอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นคดีได้จึงมีการเรียกเก็บเงินกับผู้ต้องหามาตลอด รวมเป็นเงิน 2.4 ล้านบาท ต่อมาได้มีการเปลี่ยนข้อหาเป็นลักทรัพย์ฯ แทนซึ่งเป็นการออกหมายจับซ้อน จนกระทั่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการส่งสำนวนคดีไปยังอัยการให้พิจารณาแต่อย่างใดจึงเกิดการร้องเรียนขึ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น